ดอกไม้ 4 ดอก


มีดอกไม้ 4 ดอกเป็นเพื่อนรักกัน ต่างเบิกบานอยู่ด้วยกันอย่างร่าเริง ท่ามกลางลมพัดเย็นๆ แล้วดอกไม้ งามทั้ง 4 ดอกนั้นก็ผลัดกันเล่านิทานดังนี้ "กรรณิการ์" ดอกไม้ดอกที่ 1 เล่าว่า "นานมาแล้ว มีเจ้าหญิงองค์หนึ่ง อ่านเขียนไม่ค่อยเก่ง แต่ชอบ แต่งตัวด้วยเพชรทองทุกวัน แล้ววันหนึ่งเจ้าหญิงน้อยๆ

ก็หายไปพร้อมเพชรทองราคาแพงนั้น เพราะ โจรจับตัวไปชิงทรัพย์ นิทานเรื่องนี้เตือนใจว่า "ของมีค่ามักมีภัยอันตรายรอบด้านแก่ผู้เป็นเจ้าของ" "ทับทิม" ดอกไม้ดอกที่ 2 เล่านิทานดังนี้ "กาลครั้งหนึ่ง พระราชาได้ตามหาหมอมาประกอบยา อายุ วัฒนะให้พระองค์ ทรงดื่มกินเพื่อจะได้ไม่ต้องถึงกาลมรณะตลอดไป แต่วันหนึ่งพระองค์ก็ทรงถึงกาล มรณะด้วยพระโรคชรา นิทานเรื่องนี้เตือนใจว่า "เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นของคนทุกรูปทุกนามโดยไม่มีเว้นเลย" "ดอกบัว" ดอกไม้ดอกที่ 3 ก็เล่านิทานว่า "มีชาวนาคนหนึ่ง ได้มีเมตตาจิตให้ข้าวให้น้ำแก่คนพเนจร อย่างเต็มใจยินดี ชายพเนจรผู้คิดจะลักทรัพย์ก็เลยผ่านไปโดยไม่แตะต้องของมีค่าของชาวนานั้น เพราะ ความกตัญญู และความชื่นใจในความเมตตาอย่างจริงใจของชาวนา" นิทานเรื่องนี้เตือนใจว่า "ความเมตตาค้ำจุนโลกและเกิดไมตรีอันมีค่า" "ดอกหญ้า" ดอกไม้ดอกที่ 4 เล่านิทานขึ้นบ้างคือ "ในอุทยานในเช้าวันหนึ่ง ดอกกุหลาบงามผู้เย่อหยิ่งได้ กล่าวดูถูกดอกหญ้าว่า แกเป็นดอกหญ้าริมทางที่ไร้ค่า แต่ฉันเป็นกุหลาบงามผู้ทรงโฉมงดงามยิ่ง ยังไม่ ขาดคำเจ้าของอุทยานก็เด็ดดอกกุหลาบนั้นไปดมเล่น พอเบื่อก็โยนทิ้งไปข้างทาง ใกล้กอดอกหญ้าผู้ ต่ำต้อยไร้ค่า แต่ยังมีชีวิตอยู่ดี ไม่มีภัยใดๆ เลย"
นิทานเรื่องนี้เตือนใจว่า
"แท้จริงแล้วชีวิตมีค่าเหนืออื่นใด แม้แต่ความงาม เว้นไว้แต่เพียงอย่างเดียว คือ"ความดี"