พระนางปทุมวดี

พระฤาษีได้เลี้ยงธิดากำพร้าแม่ไว้ในกระท่อมหลังกุฏิท่าน วันหนึ่งนายพรานป่ามาเห็นนาง ก็นำความไป กราบทูลพระราชาว่า "หม่อมฉันไปเจอสตรีนางหนึ่ง งามดุจเทพธิดาอยู่ในกระท่อม หลังศาลาพระฤาษี ในป่าพะยะค่ะ" พระราชาได้เสด็จมาทอดพระเนตรความงามและทรงสู่ขอ นางปทุมวดีไปอภิเษกเป็น พระมเหสี ต่อมาพระนางปทุมวดีทรงครรภ์ เป็นเหตุให้พวกนางสนม พากันอิจฉา


ครั้นพระราชาเสด็จออกจากเมืองไปปราบข้าศึก ในกาลต่อมา ซึ่งเป็นเวลาพอดีกับ พระนางปทุมวดีประสูติพระราชกุมาร นางสนมก็ขโมยพระโอรสแรกเกิดนั้น ใส่ผะอบลอยน้ำไป แล้วเอาท่อนไม้มาวางไว้ แทนพระกุมารในพระอู่ เมื่อพระนางปทุมวดีเห็นพระโอรสเป็นท่อนไม้ ก็เสียพระทัยยิ่งนัก
ครั้นพระราชาเสด็จกลับมา ทรงทราบว่าพระโอรสได้กลายเป็นท่อนไม้ ก็ทรงเชื่อนางสนมที่กราบทูลว่า พระนางปทุมวดีเป็นนางยักษ์แปลงมา จึงทรงขับไล่ ไปจากบ้านเมือง
หญิงแก่คนหนึ่ง ได้พบพระนางปทุมวดีเดินซัดเซพเนจร ก็สงสารและรับเลี้ยงไว้ เป็นลูกที่บ้านของตน อยู่มาวันหนึ่งพระราชาเสด็จลงสรงน้ำในคงคา ซึ่งมีตาข่ายกั้นรอบทิศ ครั้นแล้ว ผะอบพระราชกุมาร ซึ่ง มีเทวดารักษาอยู่นั้น ก็ลอยมาติดตาข่ายกั้น พนักงานก็เก็บนำไปถวายพระราชา พระราชาทรงเปิดผะอบ ก็พบพระราชากุมารอันงามโสภา ภายใจผะอบมีอักษรพระอินทร์ทรงเขียนไว้ว่า "พระราชกุมารเป็นโอรสพระราชา ถูกนางสนมอิจฉาพระนางปทุมวดี จับใส่ผะอบลอยน้ำมา ด้วยบุญ บารมี พระราชกุมารจึงไม่ตาย" พระราชาก็ทรงอุ้มพระราชกุมาร กลับเข้าพระราชวังแล้วทรงประกาศหา พระนางปทุมวดีกลับมายังพระนคร