พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระชัยวัฒน์ พระชัยเนาวโลหะ
พระองค์ทรงสร้างพระชัยขึ้นอีกองค์หนึ่ง เอาแบบอย่างพระชัยในรัชกาลที่ ๔ มีขนาดเล็ก ใกล้เคียงกับ พระชัยในรัชกาลที่ ๑ และที่ ๒ คือ หน้าตัก ๘ นิ้ว สูงถึงยอด รัศมี ๒๘ เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร ๘๔ เซนติเมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๒ โดยตั้งโรงพระราชพิธีที่หน้าพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ในปี พ.ศ. ๒๔๓๖ (ร.ศ.๑๑๒) พระองค์ได้ทรงหล่อ พระชัยเนาวโลหะองค์หนึ่ง พร้อมด้วย พระชัยเนาวโลหะองค์เล็กอีก ๒๖ องค์ ที่วัดนิเวศธรรมประวัติ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ สร้างพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๓ (ร.ศ.๑๒๙) มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๙ เซนติเมตร สูงถึงยอดรัศมี ๓๐ เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร ๘๗ เซนติเมตร พระราชพิธีหล่อพระชัยวัฒน์ครั้งนี้ มีทั้งพิธี ทางศาสนาพุทธ และพิธีทางศาสนาพราหมณ์ พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลองค์นี้ มียันต์เช่นเดียวกับ พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ ๔ และที่ ๕ ยันต์ดังกล่าว เป็นยันต์อริยสัจ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระองค์ได้โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีขนาดหน้าตัก ๑๗ เซนติเมตร (เท่ากำลังพระพุธ ซึ่งเป็นวันประสูติ) สูงถึงพระรัศมี ๒๗ เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร ๘๒ เซนติเมตร จึงมีขนาดใกล้เคียงกับพระชัยวัฒน์ในรัชกาลที่ ๕ แต่องค์พระเป็นเงินแบบรัชกาลที่ ๑ พุทธลักษณะแบบผสม พระราชพิธีหล่อพระชัยวัฒน์ ครั้งนี้มีทั้งพิธีทางศาสนาพุทธ และพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เสร็จแล้วได้อัญเชิญ พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล ที่ทรงหล่อใหม่ ไปประดิษฐานในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ในรัชสมัยของพระองค์ ไม่มีพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล อาจจะเป็นด้วยเวลาไม่ให้ เมื่อมีงานพระราชพิธีก็ใช้ พระชัยวัฒน์รัชกาลที่ ๕ แทน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ภายใต้ฉัตร ๕ ชั้น หน้าตักกว้าง ๗ นิ้ว ความสูงยอดพระรัศมี ๙ นิ้ว ทรงพัดแฉก หล่อด้วยเงิน สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพระราชพิธี โดยย่อดังนี้
วันอังคารที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระพุทธรูปฉลองพระองค์แล้ว ทรงจุดธูปเทียนมนัสการทรงศีล สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะรวม ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ถวายน้ำเทพมนต์
วันพุธที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงประเคนผ้าไตรแด่พระสงฆ์ ทรงจุดเทียนทอง และถวายเทียนทองแด่สมเด็จพระสังฆราช ได้เวลาพระฤกษ์โหรลั่นฆ้องชัย สมเด็จพระสัฆราชจุดเทียนชัย ชาวประโคม ประโคมสังข์แตร บัณเฑาะว์และดุริยางค์ พระราชาคณะอีก ๒๙ รูปเจริญคาถาจุดเทียนชัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชาธรรมที่เตียง พระสงฆ์สวดภาณวาร
วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ เสด็จพระราชดำเนิน เข้าสู่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงศีล แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถ ได้เวลาพระฤกษ์ ๗ นาฬิกา ๑๒ นาที ถึง ๗ นาฬิกา ๒๒ นาที โหรลั่นฆ้องชัย ทรงเททองและเงิน หล่อพระพุทธปฏิมาประจำรัชกาล พระสงห์ ๓๐ รูป ในพระอุโบสถ มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานเจริญชัยมงคลคาถา ชาวประโคม ประโคมสังข์ แตร บัณเฑาะว์และดุริยางค์ ทหารปืนใหญ่ (จากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๑ รักษา พระองค์ จำนวน ๑ กองร้อย โดยมี ร้อยโท ชูชาติ หิรัญรักษ์ เป็นผู้บังคับกองร้อย) ยิงปืนพระฤกษ์ มหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักร มหาปราบยุค ๑๙ นัด พระครูวามเทพมุนี ถวายน้ำสังข์ที่พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์ ๓๐ รูป รับพระราชทานฉัน สมเด็จพระราชาคณะดับเทียนชัย พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญคาถาดับเทียนชัย
เจ้าพนักงานอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หล่อใหม่ ไปประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภช เป็นเสร็จการพระราชพิธี
|