พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

 
 

 

เสด็จออกมหาสมาคมและสถาปนา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี

เวลา 14.15 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประดับนพรัตนราชวราภรณ์เช่นตอนเช้า เสด็จออกทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ มายังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนพระราชบัลลังก์ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงประมหาพิชัยมงกุฎ มหาดเล็กเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระแสงรายตีนตอง พระแสงอัษฎาวุธ และถวายอยู่งานพัดโบก มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร พระสุริยภักดี ชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญา ชาวพนักงานกระทั่งมโหรทึก ประโคมสังข์ แตร และกลองชะนะ กองทหารเกียรติยศกระทำความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี รัฐมนตรี คณะทูต สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทน และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลถวายความจงรักภักดี และถวายพระพรในนามคณะรัฐมนตรี และข้าราชการทั่วราชอาณาจักร


เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูล ถวายความจงรักภักดี และถวายพระพรชัยในนามประชาชนชาวไทย
พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการดำรัสตอบ ขอบใจ ทั่วกัน
มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานกระทั่งมโหรทึก ประโคมสังข์ แตร และกลอง ชะนะ ทหารกองเกียรติยศกระทำความเคารพ แตวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
เวลา 14.40 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฯลฯ เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ มหาดเล็กเชิญราชกกุธภัณฑ์ตามเสด็จ ประทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร สมเด็จพระราชินีประทับข้างพระที่นั่งภัทรบิฐเบื้องซ้าย พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการหญิงในพระราชฐาน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โปรดเกล้า ฯ ให้หลวงบรรเจิดอักษรการ อาลักษณ อ่านประเทศกระแสพระบรมราชโองการ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สถาปนาสมเด็จพระราชินี ให้ดำรงราชฐานันดรศักดิ์ เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินี

แล้วสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินี เสด็จไปสู่หน้าพระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ ทรงเจิม พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นโบราณมงคล นพรัตนราชวราภรณ์ และเครื่องอิสริยาชูปโภค สำหรับตำแหน่งสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี
ชาวพนักงานประโคมสังข์ แกว่งบัณเทาะว์ ฆ้องชัย แตร และเครื่องดุริยางค์ ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนชัยนาทนเรนทร กราบบังคมทูลพระกรุณา แทนพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในพระราชฐาน ถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ แล้วจมื่นสิริวังรัตน์ เลขานุการพระราชวัง ทูลเกล้า ฯ ถวายขันดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง ทรงโปรยพระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ขึ้นสู่หอสุลาลัยพิมาน
ในการเสด็จออกมหาสมาคมวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เทียบช้างต้น ที่เกยหน้าพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ ม้าต้นที่สนามหญ้าหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งราเชนทรยาน ที่เกยข้างพระที่นั่งดุสิดาภิรมย์ รถยนต์พระที่นั่งที่หน้าอัฒจันทร์ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และเทียบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ที่ท่าราชวรดิฐ

ประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และถวายบังคมพระบรมอัฐิ

เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมาลาเส้าสูง เสด็จออกเถลิงเกย หน้าพระทวารเทเวศร์รักษา ประทับพระที่นั่งราชยานพุดตานทอง เจ้าหนักงานกระทั่งมโหรทึก ประโคมสังข์ แตร และกลองชะนะทองเงิน กองทหารเกียรติยศกระทำวันทยาวุธ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนราบใหญ่ จากเกยไปตามถนนอมรวิถี เลี้ยวออกประตูพิมานไชยศรี ไปตามถนนจักรีจรัณย์ เลี้ยวถนนหน้าศาลาสหทัย ไปเทียบเกยพลับพลา เปลื้องเครื่องที่ประตูหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยทางลาดพระบาท ไปยังพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ และถวายต้นไม้ทองเงิน บูชาพระพุทธมหามณีรัตน์ปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการพระศรีรัตนตรัย สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล ทรงสมาทานศีล แล้วมีพระราชดำรัสประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ในที่ชุมนุมสงฆ์ และพระบรมวงศานุวงศ์กับข้าราชการเป็นภาษาบาลี แปลเป็นไทยว่า
"ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ แต่เดิมมา โยมก็ได้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส และได้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ด้วยวิธีนั้นๆ อยู่แล้ว ฉะนั้น บัดนี้โยมได้เถลิงถวัลยราชสมบัติ บรมราชาภิเษกแล้ว จึงขอมอบตัวแด่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆ์เจ้า กับจะได้รับจัดการ ให้ความคุ้มครองรักษาพระพุทธศาสนาโดยชอบธรรมตลอดไป


ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงทรงจำไว้ด้วยดีว่า โยมเป็นพุทธศาสนูปถัมภก เถิด ฯ"
ขณะนั้นพระสงฆ์ 80 รูป มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน พร้อมกันเปล่งสังฆวาจา "สาธุ" 3 ครั้ง แล้วสมเด็จพระสังฆราชถวายอดิเรก สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกจากพระอุโบสถ เสด็จพระราชดำเนินตามทางเดิม ไปยังเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประทับพระที่นั่งราชยานพุดตานทอง เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนราบใหญ่ เคลื่อนขบวนกลับเข้าสู่ประตูพิมานไชยศรี เลี้ยวไปเทียบยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกขปราสาท เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระทีนั่งดุสิตมหาปราสาท สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีเสด็จออก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีทรงจุดธูปเทียนนมัสการพระศรีรัตนตรัย และเครื่องราชสักการะถวายบังคม พระบรมอัฐิ และพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี
แล้วทั้งสองพระองค์ทรงทอดผ้า พระสงฆ์สดับปกรณ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก และถวายพระพรลา ทั้งสองพระองค์เสด็จขึ้น
เวลา 18.00 น. เจ้าพนักงานตั้งบายศรี แก้ว ทอง เงิน ที่หน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยพราหมณ์เบิกแว่น ข้าราชการรับแว่นเวียนเทียน สมโภชพระราชมณเทียรตามบุรพราชประเพณี

เฉลิมพระราชมณเทียร

วันที่ 6 พฤษภาคม 2493 เวลา 19.00 น. ผู้มีหน้าที่ในริ้วขบวน ยืนเข้าริ้วในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
เวลา 20.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องสีวันเสาร์ ฉลองพระองค์ไหมทองสลับสีน้ำเงินแก่
พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออกจากหอพระสุลาลัยพิมานแปรพระพักตร์สู่ทิศเหนือ ทรงโปรยเงินสลึงพระราชทานตลอดทาง เสด็จออกพระทวารพระมหามณเทียรตะวันออกเหนือ เลี้ยวขวาไปตามถนนทรงบาตร เลี้ยวขวาผ่านถนนหลังพระมหามณเทียร เลี้ยวขวาผ่านพระราชมณเทียรหมู่กลาง เข้าพระทวารพระมหามณเทียรตะวันตกใต้ แล้วไปตามถนนระหว่างพระที่นังจักรพรรดิพิมาน และ กำแพงแก้วพระมหามณเทียรด้านใน เลี้ยวขวาผ่านเก๋งนารายณ์ เข้าพระทวารท้องพระโรงด้านหน้าตะวันตก เสด็จขึ้นท้องพระโรงหน้าขึ้นสู่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานทางอัฒจันทร์ตะวันตก ประทับพักที่ห้องกลาง

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้านภาพรประภา กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลินี และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์ประดิษฐาสารีทรงลาดพระที่ และวางเครื่องเฉลิมพระราชมณเทียร เสร็จแล้ว ท้าววรคณานันท์ออกมากราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จเข้าสู่ห้องพระบรรทม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับบนพระแท่นลด ทรงรับถวายพระแส้หางช้างเผือก จั่นหมาก กุญแจ แล้วเสด็จขึ้นบนพระแท่นใหญ่ ทรงเอนพระองค์ลงบรรทมโดยเบื้องขวาสู่พระที่ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร ดุริยางค์ พอสุดเสียงประโคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระทับ ณ พระแท่นลดดุจตอนต้น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้านภาพรประภา กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลินี ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับพระพร แล้วทรงโปรยดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง พระราชทาน เป็นอันเสร็จการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเทียร

ถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระนามสมเด็จพระสังฆราช

วันที่ 7 พฤษภาคม 2493 เวลา 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องแบบเต็มยศจอมพลทหารบก พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท นายวรการบัญชา (บุญเกิด สุตันตานนท์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เฝ้าตามตำแหน่ง พลตรี พระยาสุรวงศ์วิวัฒน์ สมุหราชมณเทียร ถวายบังคมทูลเบิกทูตานุทูตเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เอกอัครราชทูตอังกฤษในฐานะหัวหน้าคณะทูต อ่านคำกราบบังคมทูล ถวายพระพรชัยมงคล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสตอบ แล้วเสด็จขึ้น


เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จมายังพระบรมมหาราชวัง ที่พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ด้านเหนือ เสด็จขึ้น พลตรี สวัสดิ์ สวัสดิรณชัย สวัสดิเกียรติ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กราบบังคมทูลเบิก นายต่วน สุวรรณศาสน์ จุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการกลางอิสลาม เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล
ต่อจากนั้น พลเอก มังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลเชิญ ผู้แทนคณะบุคคลต่าง ๆ ทางศาสนา และพาณิชย์เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ดังต่อไปนี้


1. อุปสังฆราช กับคณะโรมัน คาร์ ทอลิก
2. คณะเปรสโปเตเรียน
3. คณะเสฟเวนเดย์ แอคเวนตีส
4. คณะสภาคริสตจักร ในประเทศไทย
5. คณะสมาคมอเมริกัน
6. คณะหอการค้าอังกฤษ
7. คณะสโมสรฝรั่งเศส
8. คณะสมาคมพาณิชย์จีน
9. คณะสโมสรสวิสส์
10. คณะสมาคมชาวเดนมาร์ค
11. คณะหอการค้าอินเดีย
12. คณะสมาคมซิกส์
13. คณะบริษัทอิสต์ เอเชียติก จำกัด
14. คณะสมาคม ไว. เอ็ม. ซี. เอ.
15. คณะหอการค้าไทย
16. คณะสมาคมพ่อค้าไทย


ผู้แทนคณะต่าง ๆ ทูลเกล้า ฯ ถวายซองบรรจุคำถวายพระพรต่อ พระราชหัตถ์ เป็นรายคณะ
ครั้นถ้วนแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออกสีหบัญชรพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทน้อมเกล้า ฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียน และกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แทนประชาชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับยืนอยู่ ณ สีหบัญชรต่อไปอีกประมาณ 10 นาที จึงเสด็จพระราชดำเนินลงจากพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงรับดอกไม้ธูปเทียนจากท้าววรคณานันท์ ทูลเกล้า ฯ ถวายในนามข้าราชการหญิงในพระราชฐาน แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระทวารเทวราชมเหศวร์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการพระรัตนตรัยแล้ว โปรดเกล้า ฯ ให้หลวงบรรเจิดอักษรลักษณ์ อาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ประกาศสถาปนาเฉลิมพระนามสมเด็จพระสังฆราช จบแล้วทรงหลั่งน้ำถวายที่พระหัตถ์ สมเด็จพระสังฆราช และทรงประเคนใบกำกับ พระสุพรรณบัฏ ไตร ย่าม ชาวพนักงานประโคมสังข์ บัณเฑาะว์ ฆ้องชัย แตร และดุริยางค์ ครั้นแล้วทรงตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะ เพื่อพระราชสิริสวัสดิ์ และเป็นราชธรรมานุสรณ์ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามบุรพราชประเพณี และทรงประเคนพัดยศแก่พระราชาคณะที่ได้รับแต่งตั้ง 3 รูป
ระหว่างที่สถาปนา สมเด็จพระสังฆราช และราชาคณะฤกษ์ 3 รูป พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จำนวน 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา เมื่อทรงตั้งสมณศักดิ์แล้ว สมเด็จพระสังฆราชถวายอดิเรก สมเด็จพระวันรัตถวายพระพรลา
ต่อจากนั้นพระบรมวงศ์และข้าราชการ ทูลเกล้า ฯ ถวายดอกไม้ ธูปเทียน ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเทียรเสร็จแล้ว กรรมการชำระปทานุกรมทูลเกล้า ฯ ถวายพจนานุกรมฉบับบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 เสร็จแล้วสังฆการีนิมนต์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ขึ้นนั่งเหนืออาสนะบนธรรมาสน์ และพระสงฆ์ 4 รูป สำหรับอนุโมทนาขึ้นนั่งอาสนะ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดเทียนเครื่องทรงธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายศีลแล้ว ถวายพระธรรมเทศนามงคลสูตร รัตนสูตร เมตตสูตร รวมกัณฑ์หนึ่ง จบแล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ชาวพนักงานประโคมและดุริยางค์ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ถวายอดิเรก และถวายพระพรลา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินกลับ

สถาปนาฐานันดรศักดิ์ พระบรมราชวงศ์

วันที่ 8 พฤษภาคม 2493 เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องเต็มยศจอมพลเรือ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมายังพระบรมมหาราชวัง เสด็จออกพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงรับดอกไม้ธูปเทียน ของสตรีบรรดาศักดิ์ทูลเกล้า ฯ ถวาย เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเทียรแล้ว เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการพระรัตนตรัยแล้ว ประทับพระราชอาสน์ โปรดเกล้า ฯ ให้ หลวงบรรเจิดอักษรลักษณ์ อาลักษณ์ อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมราชวงศ์ ตามราชประเพณี จบแล้วพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ และทรงเจิมพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระชัยนาทนเรนทร แล้วพระราชทานเครื่องประกอบพระอิสริยยศ
เสร็จแล้วพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ทรงเจิมและพระราชทานเครื่องประกอบพระอิสริยยศ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าธานีนิวัตกรมหมื่นพิทยลาภพฤติยากร พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย และพระองค์เจ้านักขัตรมงคล
ขณะที่พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ทรงเจิม และพระราชทานเครื่องประกอบพระอิสริยยศ นี้ ชาวพนักงานประโคมสังข์ บัณเฑาะว์ แตร และดุริยางค์ เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว ทรงรับดอกไม้ ธูปเทียนดังต่อไปนี้
1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระชัยนาทนเรนทร ประธานองคมนตรี ในนามคณะองคมนตรี
2. เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์ ประธานวุฒิสภา ในนามสมาชิกวุฒิสภา
3. นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
4. ผู้บังคับการทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในนาม กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์
5. หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในนามธนาคารแห่งประเทศไทย
เสร็จแล้วสังฆการีนิมนต์สมเด็จพระสังฆราช เสด็จประทับเหนืออาสนะธรรมมาส พร้อมด้วยพระสงฆ์สำหรับรับอนุโมทนาอีก 4 รูป นั่งอาสนะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีลแล้ว สมเด็จสังฆราชถวายพระธรรมเทศนา เทวตาทิสนกถา ทศพิธราชธรรม และจักรวรรดิวัตร รวมกัณฑ์หนึ่ง จบแล้วพระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร และเครื่องดุริยางค์ สมเด็จพระสังฆราชถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จกลับ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดต้นไม้เงินทอง และธูปเทียนทองเป็นเครื่องราชสักการะ มอบกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ข้าราชการฝ่ายภูมิภาคเชิญไปบูชา พระพุทธเจดียสถานที่เป็นหลักสำคัญในราชอาณาจักรคือ


1. พระพุทธบาท สระบุรี
2. พระพุทธชินราช พิษณุโลก
3. พระบรมธาตุ สวรรคโลก
4. พระธาตุหริภุญไชย นครลำพูน
5. พระปฐมเจดีย์ นครปฐม
6. พระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช
7. พระธาตุพนม นครพนม