คุณไว้ใจแฟนได้แค่ไหน?

หากบังเอิ๊ญ บังเอิญว่า เขาหน้าตาดี ไม่ต้องถึงกับหล่อ สมาร์ท แต่หน้าที่การงานโอเค ดูดีมีรสนิยม คุณคิดหรือเปล่าว่า นอกจากตัวเองที่ปิ๊งเขาแล้ว อาจมีหญิงอื่นสนอกสนใจเขาด้วย เหตุฉะนี้ เราจะทำตัวเป็นสุนัขหวงก้าง หรือเปิดทางให้เขาเลือกเองดีหนอ

สำหรับคนเป็นสมาชิกจงอางหวงไข่ เชิญมาตรงนี้เลย ยุคนี้เห็นจะทำตัวเป็นแม่พระใจบุญไม่ได้แล้ว มิเช่นนั้น คงได้ตกรถไฟเที่ยวสุดท้ายแน่ ตรงข้าม ถ้าไม่ใส่ใจกับการเป็นโสด อยู่คนเดียวก็ได้ไม่เห็นเป็นไร คุณคงไม่ตาลุกกับวลีทีเด็ดที่ว่า "เอามือออกไป เขาเป็นของฉันนะ" หรือ Hands off, he is mine. กล่าวถึงวิธีทำอย่างไร จึงสามารถรั้งเขาไว้ไม่ให้นอกใจไปมีหญิงอื่น นั่นเอง

พูดกันตามตรง การที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จะนอกทั้งใจและกายไปให้คนอื่น บางทีก็ไม่ใช่ความผิดของเขาโดยตรง เพราะคู่รักบางคนก็ทำตัวให้น่า "ตีจาก" ไม่ใช่เล่น หรืออีกกรณี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจถูกมือที่สามยั่ว เลยหลวมตัวนอตหลุดก็ได้ เหมือนอย่างใน "ถอยไปห่างๆ คนนี้ฉันจองไว้แล้วนะ" ก็เรื่องเดียวกันนั่นแหละ แต่แปลอย่างสะใจคนเขียน ไม่ว่าใครก็คงอยากเป็นคนถูกจองมากกว่า ฟังเข้าท่ากว่ากันเยอะ

ในเนื้อหาของ Hands off, he is mine ใส่เรื่องกวนโทสะไว้ว่า หากเกิดกรณี มีสาวอื่นหัวเราะ กับอารมณ์ขันของแฟนคุณ ทั้งที่ไม่เห็นน่าขำเท่าไหร่ หนำซ้ำเธอยังพยายามเบียดตัวเอง ให้ใกล้ชิดสนิทแนบกับเขามากขึ้น พร้อมส่งสายตาเป็นประกายแวววับ ไปที่แฟนของคุณอย่างจงใจ หากคุณไม่เห็นคงไม่เป็นไร ถือว่าทำบุญทำทานไปซะ ใครจะไปมีเวลามาตรวจเช็คกันตลอดเวลา ไม่ได้เป็นฝาแฝดตัวติดกันนี่นา จะได้ไปไหนไปด้วย ไปเป็นนางมารร้ายคอยขวางหูขวางตาคนอื่นก็เอา ไม่มีสาวใดตั้งใจทำแบบหลังหรอก หากไม่เกิดข้อพิพาท ด้านการถูกแย่งชิงขึ้นมาซะก่อน แต่ถ้ามีสาวอื่นพยายามตามตื๊อ และจีบแฟนคุณล่ะ จงอย่าหยุดยั้งที่จะทำลายความหวังของเจ้าหล่อนซะด้วยการ....

1. อย่าใช้โทสะ

จุดอ่อนของผู้หญิงอย่างหนึ่งคือ คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เมื่อรู้สึกไม่พอใจอะไรสักอย่างขึ้นมา การแสดงความฉุนเฉียว ไม่ช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่กระชับแนบแน่นขึ้นมาหรอก จะยิ่งทำให้ แตกร้าวสิไม่ว่า ฉะนั้นอย่าได้โกรธกริ้วอะไรจนออกนอกหน้า
แทนที่จะโมโห คุณควรเตือน "มือที่สาม" ด้วยการแสดงว่า คุณกับแฟนหนุ่ม เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากกว่าหล่อนกับเขานะ ส่วนจะทำอย่างไร ก็เช่น ประกบติดเขาทุกที่และทุกเวลา พร้อมกับแสดงออกทางภาษากายว่า เขาเป็นของคุณด้วยการเกาะเอว, จับมือหรือปัดผม ให้ วิธีเหล่านี้ จะกีดกันไม่ให้สาวคนไหนได้เข้าใกล้เขา
แต่ขอกันไว้ก่อนนะว่า ให้ติดเขาแจเฉพาะตอนที่มารหัวใจตามรังควานเท่านั้น ส่วนเวลาอื่น ควรปล่อยให้เขาเป็นตัวของตัวเองบ้าง ไม่ใช่เอาแต่หึงไม่เข้าท่า

2. กีดกัน "คนที่สาม" ออกนอกวงโคจร ไม่จำเป็นต้องตั้งท่ารังเกียจ หรือไม่อยากคบหาสมาคม กับคนคนนั้นซะเลย

ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอจะแย่งแฟนคุณ แค่นี้ (ฟังดูเป็นเรื่องเล็กมาก แต่อย่าเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าก็แล้วกัน) คุณก็ตั้งท่าเป็นปรปักษ์กับเธอแล้ว หรือมามะจะสอนวิธีทำให้ "ผู้มาใหม่" สะอึก หากผู้มาเยือน รู้จักละอายต่อบาปอยู่บ้าง คุณควรเปิดทาง ให้หล่อนเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างคุณทั้งสอง
ยกตัวอย่าง ให้เธอมาเล่นกีฬากับพวกคุณ หรือชวนเธอไปทานอาหารกันสามคน ความใจกว้างเช่นนี้มีเลศนัยซ่อนอยู่นะ ไม่ใช่ว่าคุณไร้เล่ห์เหลี่ยม เพราะที่เปิดใจให้มือใหม่มาจอยกับเรา ก็เพื่อจะแสดงให้เธอเห็นไงว่า คุณทั้งสอง มีความผูกพันกันแน่นเปรี๊ยะขนาดไหนแต่แผนนี้ต้องมั่นใจนะว่า จะทำให้บุคคลที่สามละอายแก่ใจ แล้วบ๊ายบายไปจากแฟนของคุณ ตรงข้าม หากบรรยากาศระหว่างคู่ของคุณ มีช่องว่างอยู่ก่อนละก็ คงไม่ต้องอธิบายนะว่า ยังควรใช้วิธีนี้อยู่หรือเปล่า

3. เผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่างซึ่งๆ หน้าไปเลย ในกรณีที่คุณเหลืออดจริงๆ

บอกเธอว่า คุณรู้นะว่า เธอพยายามทำอะไร แต่อย่าพูดด้วยความโกรธ ให้พูดด้วยสติ และขอให้เธอลดละ การแย่งแฟนของคุณได้ไหม
หากการเจรจาเป็นไปอย่างสันติ ก็ขอแสดงความยินดี ที่คุณใช้ขันติระงับข้อพิพาทนี้ได้

4. มีหลายคราที่เราได้ยินว่า เรื่องชู้สาวแบบนี้ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง เหตุนี้คุณควรขอร้องแฟน ให้ลดความหล่อลงบ้างได้ไหม... พูดเล่นน่ะ

อันที่จริง ควรบอกถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นต่างหาก ดูสิว่า เขาพอจะรู้บ้างไหม หรือถ้ารู้อยู่แก่ใจแล้ว ควรร่วมมือกันแก้ไขอย่างไร ไม่ใช่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณ ที่ต้องคอยกลั่นแกล้งและกีดกัน "มือที่สาม" แต่โดยลำพังหากรักกันจริง ย่อมไม่ทิ้งกันแน่ เสียแต่ว่าเขาจะรักเราจริงหรือเปล่าเท่านั้น

มนุษย์ไม่ว่าสมัยไหนก็เหลือเกิน หาแฟนเองไม่เป็นหรือไง ทำไมต้องมาแย่งของของคนอื่นด้วย
เมอร์ลิน