มาหล่อมาสวยด้วยบุคลิกกันเถอะ

คำว่า “หล่อ” หรือ “สวย” นี้ดูจะมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นมาก คนวัยนี้จะกังวลและมีความปรารถนาอยากจะเป็นคนหล่อคนสวยกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบางคนก็โชคดีเกิดมารูปร่างหน้าตาดี ก็มองดูสบายตาไป แต่บางคนก็โชคไม่ค่อยดีนักทางด้านรูปร่างหน้าตาก็อาจจะคิดมากก็ได้

วัยรุ่นคิดอย่างไรบ้างกับความหล่อความสวยของตนเอง

ก็คิดหลาย ๆ แบบครับ

แบบ 1 เป็นพวกที่ “หล่อ” หรือ “สวย” แต่คิดว่าตัวเอง ”ไม่หล่อ” หรือ “ไม่สวย”

แบบ 2 เป็นพวกที่ “หล่อ” หรือ “สวย” และคิดว่าตัวเอง “หล่อ” หรือ “สวย”

แบบ 3 เป็นพวกที่ ”ไม่หล่อ” หรือ “ไม่สวย” แต่คิดว่าตัวเอง “หล่อ” หรือ “สวย”

แบบ 4 เป็นพวกที่ ”ไม่หล่อ” หรือ “ไม่สวย” และคิดว่าตัวเอง ”ไม่หล่อ” หรือ “ไม่สวย”

ใครอยู่ในข่ายไหนแบบไหนก็ประเมินกับตัวเองเอาเองเถอะครับ คุณว่าแบบไหนน่ารักที่สุด? และแบบไหนน่าเกลียดที่สุด? นึกออกไหมครับ

ความหล่อ-ความสวยคืออะไร?

จริง ๆ แล้วมันก็คือ ลักษณะอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่เป็นแรงดึงดูดทางเพศในเชิงรูปสมบัติ ให้มนุษย์สนใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ความหล่อความสวยนี้ขึ้นอยู่กับการกำหนดหรือมาตรฐานของสังคมในขณะนั้น ว่าจะกำหนดให้คนแบบไหนเป็นคนหล่อคนสวย และจะเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อย ๆ เช่น ในบางสมัยจะนิยมว่าผู้ชายหุ่นผอม ๆ เพรียว ๆ เป็นคนหล่อ และผู้หญิงก็ต้องมีหน้าอกเล็ก ๆ แบบอกไข่ดาว เป็นคนสวยครับ ต่อมาอีก 3-4 ปี ก็เปลี่ยนใหม่โดยกำหนดให้ว่าผู้ชายหล่อต้องมีกล้ามเนื้อพองาม หุ่นแข็งแรงสมส่วนแบบนักกีฬา หรือผู้หญิงต้องมีอกโตมีเอวคอด มีตะโพกผายเห็นชัดเจน จึงจะเป็นคนสวย แม้แต่เรื่องทีทรงผมก็เหมือนกันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ เดี๋ยวสั้นเดี๋ยวยาว

ฉะนั้นความหล่อความสวยจึงถูกกำหนดด้วยรูปสมบัติ ตามค่านิยมของสังคมแต่ละสมัยเป็นหลักมากกว่า

แต่ความหล่อความสวยก็อยู่ไม่ทนไม่ใช่หรือ?
แน่นอนครับ ใครที่ว่าเป็นคนหล่อคนสวย พ.ศ.นี้ อีก 10 ปีข้างหน้าอาจจะกลายเป็นคนที่ไม่หล่อไม่สวยเอามาก ๆ ก็ได้

น่าจะมีสิ่งอื่นที่จะมาทดแทนรูปสมบัติที่จะทำให้คนหล่อและสวยได้นาน ๆ หน่อยไหม
ผมเชื่อแน่ว่ามีครับ ก็คือสิ่งที่ผมกำลังจะพูดถึงนี่แหละ

ผมมั่นใจว่าบุคลิกภาพที่ดีของคนเรานี่แหละที่จะทำให้คน “แลดูดี” ได้นาน ๆ มองได้ไม่เบื่อ เป็นเสน่ห์ที่จะทำให้คนอื่น ๆ อยากสัมพันธ์กับเรา อยากชื่นชมเราเมื่ออยู่ใกล้ และคิดถึงเมื่อห่างไกล คนที่ไม่สวยไม่หล่อทางรูปร่างก็อาจจะสร้างเสน่ห์ได้โดยการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นความงามหรือความหล่อทางนามธรรมได้อีกแบบหนึ่ง ยิ่งอยู่ใกล้ชิดเท่าไรยิ่งเห็นความมีเสน่ห์มากขึ้นเท่านั้น

โดยทั่ว ๆ ไปบุคลิกนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ

(ก) บุคลิกภาพภายนอก ได้แก่ สิ่งที่มองเห็นจากภายนอกได้ เช่น รูปร่าง หน้าตา กิริยาท่าทาง รสนิยม การพูด ฯลฯ

(ข) บุคลิกภาพภายใน ได้แก่ แนวความคิด , ทัศนคติ , จิตใจ , ความรู้สึก ฯลฯ

คนบางคนหน้าตารูปร่างดี แต่ขาดบุคลิกที่ดีก็จะมีลักษณะไม่น่าสนใจ เปรียบเสมือนอาหารที่บรรจงแต่งไว้อย่างดีที่เอาไว้เช่นผีบ้านผีเรือนนั่นแหละครับ แลดูสวยแต่แข็ง ๆ ชอบกล

บุคลิกอะไรบ้างที่น่าจะส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่นี้มีมากขึ้น
ก็มีหลาย ๆ อย่างครับ แต่ผมคิดว่า คนในวัยรุ่นในขณะนี้มักจะขาดบุคลิกบางอย่างเหล่านั้นกันมาก ๆ และน่าจะขวนขวายฝึกหัดตัวเองให้มีบุคลิกเหล่านั้นมากขึ้นก็คือ

(1) ความยิ้มแย้ม ต้องมาจากจิตใจที่ดี มองโลกดี จิตใจจึงจะชื่นบานและจะส่งความยิ้มแย้มออกมาทางสีหน้า ท่าทาง และแววตา ความยิ้มแย้มนี้ ไม่ใช่การหัวเราะแบบหน้าเป็นทั้งวัน หรือมีความตลกขบขันตลอดเวลา คนที่ไม่ยิ้มแย้มนั้นอาจจะมีจิตใจเป็นทุกข์มาก ๆ เครียดมาก ๆ บางคนหน้าบึ้งหน้างอ บางคนก็ทำท่าเหมือนเบื่อชีวิต ซึ่งน่าจะไปทำงานเป็นคนเฝ้าส้วมสาธารณะจะเหมาะกว่า ความยิ้มแย้มนี้เป็นสิ่งดีซึ่งควรจะมีไว้ทุกคน ยิ้มสยามซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นยิ้มที่สวยงามมาก ขอให้สังเกตดูว่า ขณะนี้ยิ้มสยามของเรากำลังจะกลายเป็นยิ้มแสยะหรือยิ้มหยันกันมากขึ้นแล้วจริงไหม?

(2) ความกระตือรือร้น มีชีวิตชีวา เวลาจะทำอะไรก็มีการวางแผน และลงมือทำ ท่วงทีของเราก็จะกระฉับกระเฉง บางคนมีท่าทางเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ชา ๆ น่าจะเป็นนางรำละครแก้บนเสียจะดีกว่า

(3) พูดจาไพเราะ คนพูดเพราะนี้เป็นเสน่ห์อย่างยิ่ง คนฟังชอบ ฟังแล้วสบายหูพาให้สบายใจ คนสมัยนี้ชอบพูดคำหยาบกันมากมายเหลือเกิน ซึ่งบุคคลที่พูดคำหยาบเหล่านี้ น่าจะมาจากค่านิยมผิด ๆ คิดว่าพูดคำหยาบแล้วเป็นการแสดงความสนิทสนมกัน แต่ผมว่าน่าจะมาจากสันดานดิบของการทำลายในตัวคนคนนั้นสูงก็เป็นได้ ถ้าพูดคำหยาบกันบ่อย ๆ อีกหน่อยจิตใจก็จะซึมซับความหยาบเข้าไป และจะกลายเป็นการแสดงพฤติกรรมที่หยาบ ๆ เข้าหากันได้มากมาย ในช่วงนั้นคนคงข่มขืนกัน , ฆ่ากัน , ด่าทอกัน , ทำร้ายกันมากมายก็ได้

(4) มารยาทดี มีน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือกันให้ความจริงใจ มารยาทแบบไทย ๆ ที่กำลังจะเลือนไป และน่าฟื้นฟูให้มีขึ้นอีกมาก ๆ ก็คือ การรู้จักขอบคุณคนด้วยความจริงใจเมื่อเขาทำบุญคุณให้เรา และน่าจะฝึกใจให้รู้จักการขอโทษอย่างจริงใจเมื่อทำผิดและรู้สึกผิดด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ขอโทษแบบเสียไม่ได้หรือพาลโกรธและงอนไปเลยเมื่อทำผิดซึ่งเราพบได้บ่อย ๆ

การทักทายกันก็ควรจะใช้สรรพนามให้ถูกต้อง การทำความเคารพกันและกันตามมารยาทไทย – ไทย เช่น การไหว้ ก็จะทำให้การพูดจากันในการพบปะกันเป็นไปได้ดีขึ้น ลดความเก้อเขินลงได้มากด้วย ในกรณีที่คุณต้องเข้าไปในงานตามลำพัง

(5) ความสะอาดทั้งร่างกายและการแต่งกาย, สะอาดใจ และสะอาดวาจา ควรใช้เสื้อผ้าที่สะอาด ตามสมัยนิยมที่เหมาะสมแก่วัยและฐานะ การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าและข้องใช้ที่แพงไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นและเหมาะสม

(6) ความแข็งแรง ร่างกายจะต้องแข็งแรง ควรจะเล่นกีฬาเป็นประจำ เวลาเล่นกีฬาก็ควรหัดรู้จักแพ้ให้เป็น ไม่ใช่จะเอาแต่ชนะอย่างเดียว ถ้าใครที่เล่นกีฬาเพื่อหลงเอาชนะอย่างเดียวแพ้ไม่ได้เลย ผมถือว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่น่าคบหาด้วยเลยครับ

จากสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ผมว่าเราน่าจะพยายามหามาใส่ในตัวเราเองให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น หรือเลยวัยรุ่นแล้ว

ถ้าคุณ ๆ ทำได้อย่างที่ผมกล่าวมาแล้วนะครับ คุณจะเป็นคนหล่อคนสวยชนิดที่หล่อไม่เสร็จ หรือสวยไม่เสร็จทีเดียว คือหล่อและสวยตลอดไป-ตลอดกาล

เอ้า! เรามาเสริมความหล่อความสวยให้ถูกต้องกันดีกว่าครับ

 

 

By: น.พ.วิทยา นาควัชระ