ถ้าคุณอารมณ์เสีย จะหาทางแก้อย่างไร
คุณเคยหงุดหงิด เกรี้ยวกราด ชนิดที่แม้กระทั่งแยกเขี้ยวยิงฟันใส่คนที่คุณรักที่สุด ก็ทำมาแล้ว--- บ้างไหม?
อยากบอกว่า คุณไม่จำเป็นต้องตกอกตกใจกับการอารมณ์เสีย (เหมือนกับที่เพลงเขาร้องว่า อย่าปล่อยให้เสีย ต้องเคี้ยว...) หรืออาการสติแตกไปเลย เพราะใช่ว่าโลกนี้คุณจะเคยอารมณ์ บ่จอยคนเดียวซะที่ไหน
การอารมณ์เสียซะบ้าง จึงไม่ใช่เรื่องน่าวิตก ขอให้อย่าคิดมากเป็นใช้ได้ หรือหากกำลังเครียดอยู่ ก็ขอให้ยิ้มสู้โลกหน่อยน่า... คนดีของคนสมถะ
ว่าแต่พออารมณ์เสียจนเลือดขึ้นหน้าแล้วเนี่ย คุณผู้อ่านก็อย่าปล่อยให้มันเป็นนายเหนือตัวเราก็แล้วกัน เพราะการปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือตัวเรา จะทำให้คนคนนั้นเป็นคนปราศจากเหตุผลไปซะดื้อๆ ซึ่งคนที่มุ่งด้านอารมณ์เป็นใหญ่น่ะ ส่วนมากทำให้ครอบครัวพังพาบมาแล้ว ไม่รู้จักเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
แล้วหากคุณกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลขึ้นมาซะแล้ว คิดรึว่า ยังจะมีใครอยากมารักคุณอีก?
เอ้า...เอางี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเราไม่อยากอารมณ์เสีย และไม่อยากตกเป็นทาสของมันด้วย เราลองมาหาวิธีช่วยกันควบคุมสติสตังค์ ไม่ให้แตกกระเจิงกันดีกว่า
นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนกล่าวว่า อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เป็นเรื่องธรรมดา ทว่าอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง มีผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย สรุปง่ายๆ ก็คือ แน่นอนที่คนเราจำเป็น ต้องมีอารมณ์ และย่อมต้องมีการแสดงออก แต่ไม่ควรแสดงออก ให้มากจนเกินเหตุ หรืออะไรนิดอะไรหน่อย ก็ทำเป็นไม่สบอารมณ์เสียแล้ว ทำหยั่งงี้ไม่ได้นะเจ้าคะ
เพราะอะไรนะหรือ?
ก็เพราะคนที่มีอารมณ์โมโห หรือโกรธฉุนเฉียว และเกลียดชังผู้อื่นอยู่เป็นนิจนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจง่ายกว่าคนปรกติ นี่ไงเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
เพราะฉะนั้น เราต้องมาช่วยกันต่อสู้ ไม่ให้ตัวเราหลงเข้าไปติดกับดักของความเกลียด, โกรธ และแค้นใจกันดีกว่า ทีนี้เราจะลดละความโกรธ และเกลียดชังได้ไง ก็ต้องเริ่มจาก
1. จับจุดปัญหา เวลาที่คุณโกรธ หรือโมโหอะไร คุณต้องหาสาเหตุก่อนว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เมื่อหาได้แล้ว ก็ต้องรู้จักผ่อน คลายความวิตกจริต อาจจะด้วยการเข้าวัดเข้าวา หรือทำใจระงับโกรธ ก็แล้วแต่ หากคุณทำใจยอมรับว่า ไม่มีอะไรที่จะได้อย่างใจเสมอไปได้ล่ะก็ ขอแสดงความยินดีว่า คุณเริ่มจะบรรลุแล้ว
2. เข้าหาธรรมชาติ แค่ได้เห็นต้นไม้ใบหญ้าก็เชื่อว่า จิตใจคุณจะเบิกบานขึ้น
3. นอนหลับให้เพียงพอ ไม่ใช่นอนหลับๆ ตื่นๆ เพราะขืนนอนไม่หลับ คุณคิดหรือว่า ตัวเองจะอารมณ์ดีได้นานแค่ไหน
4. ปลูกฝังความคิดที่ดีๆ เช่น ยิ้มวันละนิดจิตแจ่มใส ไม่ใช่เห็นใครหรืออะไรก็หน้ามุ่ยใส่ตลอด
5. รู้จักกินอย่างฉลาด เพราะอาหารหลายอย่างทำให้คุณหงุดหงิดง่าย ก็มีพวกเผ็ดๆ ร้อนๆ นั่นแหละ หากเป็นไปได้ก็เลี่ยงๆ ซะ จะได้ไม่อารมณ์ เสียง่ายเหมือนเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ไง.
คนสมถะ
|