พระราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


พระราชดำรัสตอบ
พวกบาทหลวง พ.ศ. 2440

 

..... ขอท่านบาทหลวงผู้มีอายุทั้งหลาย ได้นำความขอบใจไปถึงท่านบิชอบเยราเซ็น ผู้เป็นอธิบดีสงฆ์นั้นด้วย .....
แท้จริงความปราถนาของข้าพเจ้านั้น ก็มีเพื่อจะเสาะแสวงหาจากการที่สนทนากับผู้มีชื่อเสียงใหญ่ ๆ ทั้งปวง แลจะได้สังเกตเห็นด้วยจักษุ แลโสตของข้าพเจ้าเอง ได้ทราบความอันพึงควรทราบ จนเต็มกำลังที่จะทราบได ้ในความดีแลความชั่ว ที่ในเมืองนานาประเทศนั้น ด้วยความมุ่งหมายว่า เมื่อกลับมาแล้วก็จะพยายาม (ตามพระบาลีว่า " อะสาธาธุํ สาธุนาชิเน") คือ ที่จะปราบปรามความชั่วในเรื่องนี้ให้ได้ด้วยความดีฉะนั้น
ข้าพเจ้าเข้าใจอยู่แท้ว่า ในบรรดาการทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้คบหาสนทนากับพระมหากษัตริยาธิราชทั้งหลาย กับผู้เป็นประธานาธิบดีทั้งปวง กับทั้งผู้มียศใหญ่ๆ ในแผ่นดินทั้งหลายเหล่านั้นด้วยแล้วการที่ข้าพเจ้า ได้ไปเยี่ยมเยียนยังพระองค์ผู้เป็น เอกอัครมหาประธานาธิบดีสงฆ์ ในศาสนาโรมันคาทอลิกนั้น ..... การที่ได้สนทนาสมาคมนั้น จะพึงทำให้สนิทยิ่งขึ้นในทางสัมพันธมิตร ที่ได้มีมาแต่กาลปางก่อน กว่าสองร้อยปีแล้ว ในระหว่างโบราณกษัตริย์แห่งกรุงสยาม กับสมณจักรอันศักดิ์สิทธิ์ แลที่ได้กลับฟื้นฟูขึ้นใหม่ ในรัชกาลแห่งพระบรมชนกาธิราชกับพระมหาสันตปาปา ผู้ทรงพระนามว่า ปิโยที่ 9 นั้นด้วย
..... แลทราบว่าในเทพยปฏิญาณทั้งหลาย ที่ท่านย่อมยินดีเป็นการวิเศษในเวลาคริสตสมภพนี้ ก็มีอยู่อันหนึ่งว่า ความสงบเรียบร้อยจงมีขึ้นในแผ่นดิน แก่คนทั้งปวงผู้มีปราถนาดีนั้นเถิดดังนี้ ในพระพุทธภาษิตของเรา ก็มีความเหมือนกันว่า เมต์ตัญจสัพ์พโลกัส์มิง จงตั้งใจปราถนาดีต่อชนทั่วทั้งโลก ในความปราถนาดีของข้าพเจ้า อันมีอยู่สืบ ๆ มา แต่อาณาประชาชนทั้งหลายในพระราชอาณาจักรนี้ .....


พระราชดำรัสตอบ
พ่อค้าฝรั่ง พ.ศ. 2440

..... ไม่มีผู้ใดจะมีความประสงค์ยิ่งกว่าเรา ในการเจริญของชุมนุมพ่อค้ายุโรปและอเมริกาในกรุงนี้ เราทราบอยู่ว่า ในการทั้งปวงที่เกี่ยวด้วยการบำรุงการค้าขาย แลการช่างนานาประเทศนั้นย่อมจะมีผู้ที่ได้รับประโยชน์ทั้งสองข้าง เหตุฉะนั้นท่านคงจะหวังได้ในตัวเราว่าเป็นผู้เห็นชอบในความคิดอันใดอันหนึ่ง ซึ่งต้นทุนต่างประเทศ จะได้ใช้จ่ายให้ชอบธรรม แลมิให้สูญเปล่า เพื่อจะได้เปิดเผยสมบัติทั้งปวงในเมืองนี้ .....


พระราชดำรัสตอบ
พวกพ่อค้าแขก พ.ศ. 2440

..... ทางพระราชไมตรีในระหว่างกรุงสยามแลอินเดีย มีมาแต่โบราณแท้จริง แลผิดกันกับเดี๋ยวนี้ด้วย .....พ่อค้าอินเดียได้เคยมีการค้าขายอันเจริญ แลได้มาตั้งอยู่โดยปราศจากภัยในกรุงสยามช้านาน ก่อนหนังสือสัญญา ทางพระราชไมตรีทั้งปวงซึ่งมีอยู่ในบัดนี้ ..... พ่อค้าอินเดียทั้งหลาย ได้ประกอบการเลี้ยงชีพ อย่างประเทศที่ตนถือเอาโดยแท้ จนถึงกับมีความทุกข์แลสุขกับเราด้วยเสมอมา ......
.........
พระราชดำรัสตอบ
พวกพ่อค้าถนนสำเพ็ง พ.ศ. 2440

.........
..... เราย่อมคิดเห็นเสมอว่า พวกจีนทั้งหลายอันเป็นราษฎรซึ่งควรรักของเรา เป็นผู้มีสติปัญญาแล ความอุตสาหะ ประกอบการค้าขายแลการช่างให้เป็นประโยชน์ เป็นการเจริญแก่บ้านเมืองเรายิ่งนัก ..... เป็นความคิดอันตั้งอยู่ในใจเราเป็นนิตย์ ที่จะบำรุงท่านทั้งหลาย ให้มีความคล่องสะดวกในการทำมาหากิน ให้ได้รับการป้องกันอันมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สมบัติ ให้เจริญซึ่งประโยชน์อันสมควรที่ท่านทั้งหลายจะได้
โดยชอบธรรมทุกเมื่อ
.........
พระราชดำรัสตอบ
พระสงฆ์ทั่วไป พ.ศ. 2440

..... ข้าพเจ้าขอรับคำอำนวยพรแห่งพระคุณทั้งหลาย ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ..... ก็แต่ความจริง พระราชอาณาจักรอันนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมพุทธศาสนา ตัวข้าพเจ้าเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา การใดอันจะบังเกิดเป็นเครื่องเจริญดีงาม แก่พระราชอาณาจักร ข้าพเจ้าก็ย่อมรู้สึกว่า เป็นหน้าที่ของข้าพเจ้า ซึ่งจะต้องทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งคู่กันกับพระราชอาณาจักร ให้ดำเนินไปในทางวัฒนาถาวร พร้อมกันทั้งสองฝ่าย
..... เมื่อข้าพเจ้าไปถึงประเทศใด ซึ่งได้รับพระไตรปิฎกฉบับพิมพ์นั้น รักษาไว้ในหอสมุดใหญ่ต่าง ๆ ย่อมมากล่าวสรรเสริญการซึ่งเราได้ทำ แลได้ตั้งสมุดไว้ในที่อันงดงามมั่นคงทั่วทุกแห่ง มีนักปราชฌ์ทั้งหลาย ได้อุตสาหะเรียนรู้พระพุทธวจนะมาก กิตติศัพท์ความสรรเสริญธรรมของพระพุทธเจ้า ย่อมปรากฎฟุ้งไปใน ประเทศที่ไกลทั้งหลายมากขึ้นโดยลำดับ ..... เมื่อพระพุทธวจนะแพร่หลาย มีผู้รู้ธรรมที่แท้จริงมิใช่ศาสนาที่เลวทราม .....
..... ตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าไปในประเทศทั้งปวงนั้น ข้าพเจ้ามิได้มีใจน้อมไปในศาสนาอื่น คงความเห็นยั่งยืนอยู่ในพระพุทธศาสนา ด้วยเห็นว่าเป็นนิยานิกธรรมแท้ แต่ความดีอย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าพอใจในความอุตสาหะของผู้ซึ่งรักษาศาสนาอื่น ๆ ย่อมเอื้อเฟื้อสอนศาสนาของเรา แลสั่งสอนวิชาการมีหนังสือ เป็นต้น ซึ่งเป็นอุปการแก่ความรู้ เพื่อความประพฤติดีของมนุษย์ทั้งหลาย แลมีความอุตสาหะปฏิสังขรณ์แลรักษาอาวาส ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยแลเป็นที่นมัสการ ก็แลการทั้งปวงนี้ บางพวกในเมืองเรา ได้มีอุตสาหะประพฤติให้เป็นคุณ เช่นนี้อยู่แล้ว แต่ยังเป็นเหตุที่สมควรจะให้เป็นทั่วไป แลเป็นมากขี้น .....
.........
พระราชดำรัสตอบ
ประชาชนชาวสยาม พ.ศ. 2440

.........
ตั้งแต่แรกเราได้เถลิงถวัลยราชสมบัติมาจนบัดนี้ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงกว่าแต่ก่อนเป็นอันมาก ทั้งในเมืองนี้แลเมืองอื่นๆ สิ่งของที่คิดทำกันขึ้นใหม่ๆ อย่างมหัศจรรย์ บรรทุกเข้ามาจากเมืองอื่นๆ หลายอย่าง เรือกลไฟไปมา แลเครื่องไฟฟ้าโทรเลข กระทำให้ระยะทางไกลๆ กันระหว่างเมืองเรากับเมืองอื่นทั้งหลาย อันไกลที่สุดในโลกนี้ ให้ใกล้ชิดกันเข้าเป็นอันมาก รถรางแลทางรถไฟ ก็ได้ตั้งเริ่มใช้ไปมาภายในเมืองนี้ แล้วสิ่งของต่างๆ หลายอย่างก็คิดประดิษฐ์ขึ้นใช้ด้วยแรงไอน้ำแลแรงไฟฟ้า สำหรับเป็นประโยชน์ใช้หลายประการ หนังสือเขียนแลหนังสือพิมพ์ทั้งหลาย ยิ่งได้ยินได้ฟังแลได้เห็นของที่คิดขึ้นใหม่ๆ ได้บรรทุกเข้ามา หรือว่าเป็นแต่เพียงเล่าลือกันต่อมาจนถึงเมืองนี้ ก็ยิ่งทำให้เราทั้งหลายเกิดมีความคิดปราถนาที่จะกระทำให้บ้านเมืองของเราเสมอเหมือนกับเมืองอื่นๆ ในการเช่นนี้มากยิ่งขึ้น .....
..... เราจึงได้ตกลงใจว่าจะเป็นการช่วยให้เรา ได้เห็นจริงในสิ่งอันสมควรที่จะกระทำได้ ณ เมืองนี้ ..... หากว่าเราจะได้ไปถึงประเทศยุโรปเอง อันเป็นประเทศที่มีเมืองใหญ่ ๆ หลายเมือง มีการช่าง ซึ่งเป็นฝีมืออย่างงดงาม แลเป็นความเพียรช่วยกันลงแรงทำการใหญ่ๆ อาศัยความคิดของผู้มีความรู้ในประเทศนั้น ๆ แลเป็นประเทศที่บางแห่งมีพลเมืองมากเท่ากับกรุงสยาม เลี้ยงชีพอยู่บนพื้นก็แผ่นดิน ซึ่งไม่งอกงามเหมือนแผ่นดินของเรา มีอาณาเขตอย่างน้อยที่สุด เล็กกว่าเมืองเราถึงสิบเท่าก็มี
.........
..... เราตั้งใจอธิษฐานว่า เราจะกระทำการโดยเต็มกำลังอย่างดีที่สุด ที่จะให้กรุงสยามเป็นประเทศอันหนึ่ง ซึ่งมีอิสระภาพแลความเจริญ ..... เราทั้งหลายต้องพร้อมกันพยายามกระทำการ ไม่เฉพาะเพียงสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างเดียว แต่ต้องเป็นสิ่งอันชอบธรรมด้วย พระพุทธภาษิตก็ตรัสไว้ว่า " ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ ธรรมที่ถูกที่ชอบ ยอมรักษาผู้ที่ประพฤติธรรมอันนั้น
..... ควรที่เราทั้งหลายจะถือเอาเป็นบรรทัดอย่างหนึ่งว่า ไม่พึงควรที่จะด่วนบ่นด่วนว่าไปก่อนกาล ควรที่เราทั้งหลายจะพึงมีความพอใจเพียงการสิ่งใด อันจะกระทำให้สำเร็จไปได้ แลเป็นแต่ใฝ่ฝันนึกอยู่ ถึงการอันเป็นสิ่งที่ดีบริบูรณ์แท้เท่านั้น
ในที่สุดควรที่เราทั้งหลาย อย่างพึงชอบใจไปอย่างเดียว ในสิ่งซึ่งเป็นอย่างต่างประเทศแล้ว แลไม่ชอบใจในสิ่งซึ่งเป็นอย่างไทย หรืออย่าพึงชอบใจไปอย่างเดียว ในสิ่งซึ่งเป็นอย่างไทยแล้ว แลไม่ชอบใจใน สิ่งซึ่งเป็นอย่างต่างประเทศ ..... เราทั้งหลายไม่พึงควรเฉพาะแต่ที่จะรักษา ยังควรทำให้เจริญขึ้นในสิ่งอันดี แลสิ่งที่เคารพนับถือ ว่าเป็นอาการกิริยาแลธรรมเนียมแห่งประเทศของเราด้วย
.........
พระราชดำรัสตอบ
ข้าราชการทหารบก พ.ศ. 2440

..... เมื่อต้องไปจากผู้ซึ่งเราเคยเชื่อถือในความจงรักภักดี ซึ่งเรารู้อยู่ชัดเจนว่า สามารถจะเสียชีวิตเพื่อ ป้องกันตัวเราแลบ้านเมืองของตัวได้ ยอมเป็นที่ว้าเหว่ ..... ด้วยมีความแน่ใจในหน้าที่ของท่านทั้งปวง ที่จะอยู่ในบ้านเมืองเรา เพื่อป้องกันรักษาการซึ่งสำคัญยิ่งกว่าตัวเราทีเดียว กล่าวคืออำนาจความปกครองของเราตลอดพระราชอาณาเขต ซึ่งเป็นข้อที่เรามีความห่วงใยยิ่งกว่าตัวเราเอง .....
..... การทหารของเรา ถึงว่าเราไม่คิดจะไปปราบปรามประเทศหนึ่งประเทศใด คิดเพื่อแต่จะป้องกันรักษาพระราชอาณาเขต ก็ยังมีการที่จะเพิ่มเติม แก้ไข เปลี่ยนแปลงเป็นอันมาก .....
.........
พระราชดำรัสตอบ
ข้าราชการทหารเรือ พ.ศ. 2440

.........
..... เมื่อระลึกถึงเวลาที่เราได้ไปในเรือมหาจักรี พร้อมด้วยพลทหารเรือของเราเอง ในระยะทางที่ไกลถึงฝ่ายหนึ่งของโลก คิดกำหนดแต่ที่เรือได้เดินถึง 31,214 ไมล์ หรือ 3,307 โยชน์ 2 เส้น ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่ชาวเรา ได้เดินเรือโดยระยะยาวที่สุด แลไปในท่ามกลางมหาสมุทรอันใหญ่ ถึงประเทศทั้งหลายที่ต่างชาติ ต่างภาษา เรือได้แขวนธงชาติเรา ได้ไปทอดอยู่ในท่าแห่งประเทศทั้งหลายนั้น โดยมีสง่างดงาม แลได้เข้าในเวลาประชุมตรวจเรือรบที่กรุงอิงแลนด์ เรามีเหตุผลที่ควรจะยินดี เพราะได้เห็นเป็นพยานชัดว่า พลทหารเรือของเรา มีความสามาถในหน้าที่ของเราแท้ทีเดียว .....
.........
พระราชดำรัสตอบ
นักเรียนทุนในกรุงเทพฯ พ.ศ. 2440

.........
เราขอกล่าวต่อไป ในการที่เราได้ไปแล้วยังที่เล่าเรียนทั้งหลาย ในประเทศยุโรปบางแห่ง ที่เป็นสำคัญอันชาวเรารู้จักอยู่โดยมาก คือวิทยาลัยต่างๆ ที่เมืองออกซเฟิต แลโรงเรียนที่ฮาโรแลอีตัน เป็นต้น ..... แลทั้งได้ตรวจตราเห็นประดานักเรียนทั้งหลายของเรา ที่ได้ไปเรียนอยู่ในประเทศยุโรป ทำให้เราได้กำหนดในใจได้อย่างหนึ่งว่า การเล่าเรียนเพื่อให้พอแก่ประโยชน์การงานทั้งปวงในเมืองเรานี้ ไม่เป็นสำคัญอยู่แต่ผู้ที่ไปเรียนอยู่ในประเทศยุโรปนั้นเลย แต่เพียงผู้ซึ่งไม่มีความรู้ในภาษาอังกฤษของตัวเองเสียในเบื้องต้น แลทอดธุระเสีย ตั้งหน้าเรียนเอาแบบฝรั่ง บางทีเป็นเหตุให้เสียเวลา แลกลับมาทำงานไม่ได้สะดวกทันที เพราะไม่รู้ภาษาของตัวชัดเจน แลไม่รู้ประเพณีบ้านเมืองของตัวอย่างไร .....
..... ให้พึงนึกในใจว่า เราไม่ได้มาเรียนจะเป็นฝรั่ง เราเรียนเพื่อจะเป็นคนไทย ที่มีความรู้เสมอด้วยฝรั่ง เมืองเราเวลานี้ต้องการคนที่มีความรู้ ที่จะรับราชการในหน้าที่ต่างๆ แลประกอบการต่างๆ ทั่วไปเป็นอันมาก ..... แลเป็นการไม่แน่เลยแท้จริงว่า คนที่ไปเรียนในยุโรป แล้วจะดีกว่าคนที่เรียนในเมืองเราไปทั่วทุกคน .....
..... นักเรียนผู้ใดที่มีความรู้ แลความสามารถ ไม่ว่าชาติตระกูลอย่างใด คงจะได้รับความอุดหนุนของเรา ให้รู้ความตามสมควรแก่ปัญญาของตน แลได้รับผลอันเกิดแต่ความรู้นั้น โดยไม่มีที่เลือกเว้น .....


พระราชดำรัสตอบ
ข้าราชการจีน แลพวกพ่อค้าจีน พ.ศ. 2440

..... พวกจีนทั้งหลายได้รู้ประจักษ์ แลพอใจในประโยชน์แลความสุข อันเขาทั้งหลายได้รับจากความปกครองของเราว่า ดีกว่าประเทศอื่นๆ เพราะความจริงแต่โบราณนานมาจนถึงทุกวันนี้ พระเจ้าแผ่นดินทั้งหลาย ย่อมมีพระหฤทัยเมตตาปราณีแก่พวกจีน ว่าเป็นพลเมืองอันดี มีความอุตสาหะทำมาหากิน ให้เกิดประโยชน์ขึ้นในแผ่นดินเป็นอันมาก แลเป็นผู้ซึ่งถือเอาเมืองที่ตนมาอยู่เหมือนอย่างเมืองของตัว แลการที่อยู่กินปนกันกับคนไทยสืบมาช้านาน ก็ย่อมมีอัธยาศัยเป็นคนไทยแท้มากขึ้นโดยลำดับ โดยรับเข้าสมาคมแห่งชาติของเราโดยสนิท ย่อมมีส่วนด้วยในความสุข แลความทุกข์ของเมืองเรา เหมือนกับคนไทยทั้งหลาย .....
.........
พระราชดำรัสตอบ
ข้าราชการในพระองค์ พ.ศ. 2440

.........
..... ก็การรับรองพิเศษส่วนหนึ่งซึ่งท่านทั้งหลาย ได้พร้อมใจกันทำให้เราอีกในบัดนี้ เป็นความปราถนา ที่จะแสดงน้ำใจอันรู้สึกว่าเป็นผู้มีหน้าที่ใกล้เคียง ฤามีความพอใจในการอันหนึ่งอันใด ที่ตัวเราได้ทำ ..... เป็นเพราะเหตุที่ท่านทั้งหลาย ได้ตั้งอยู่ในฐานะพิเศษนี้ ยิ่งเป็นเหตุที่จะต้องขวนขวายต่อความประพฤติ ให้สมเกียรติยศ ซึ่งได้ถือว่ามีอยู่แก่ตัว แลด้วยความรักใคร่ต่อตัวเรา
.........