“มาฆบูชา”วันแห่งความรักแบบไทยๆ


พระสงฆ์ 1,250 รูป มาประชุมโดยไม่ได้นัดหมาย
ช่วงนี้คงจะได้เห็นผู้คนเข้าออกวัดวากันบ่อยมากขึ้น เพราะใกล้จะถึง วันมาฆบูชา ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง แต่ก่อนที่จะเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม หรือเวียนเทียนกันนั้น เรามารื้อฟื้นความทรงจำกันก่อนดีกว่า (หลังจากที่เรียนศาสนาพุทธแบบท่องจำมานานหลายปี) ว่าทำไมวันมาฆบูชาจึงมีความสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชน ซึ่งจริงๆแล้วอาจเปรียบได้ว่าเป็นวันแห่งความรักแบบไทยๆ อีกด้วย

วันมาฆบูชา ย่อมาจากคำว่า "มาฆปุรณมีบูชา" แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน 3 ซึ่งวันมาฆบูชาในบ้านเราจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 3 หรือประมาณราวเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากเป็นปีอธิกมาส (คือปีที่มีเดือน 8 สองหน) วันมาฆบูชาจะเลื่อนไปเป็น วันขึ้น 15 ค่ำกลางเดือน 4 หรือประมาณเดือนมีนาคม (เหมือนกับปีนี้)

ในสมัยครั้งประวัติกาลร่วมสามพันปีมาแล้วนั้น “วันมาฆบูชา” เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง พระโอวาทปาติโมกข์ ธรรมอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก (การไม่ทำบาปอกุสลทั้งปวง, ทำความดีให้ถึงพร้อมด้วยกาย วาจา ใจ และการทำจิตใจให้หมดจดบริสุทธิ์ผ่องใส)

สิ่งที่ทำให้วันมาฆบูชา เป็นวันที่แปลกอย่างน่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง และแลดูจะแตกต่างจากวันสำคัญทางศาสนาวันอื่นๆ คงอยู่ที่วันๆ นี้เป็นวันที่ มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป ซึ่งจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานที่ต่างๆ ได้เดินทางกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ อย่างพร้อมเพียงกันโดยที่มิได้มีการนัดหมายกันมาก่อน ซึ่งพระสงฆ์จำนวนเหล่านี้ ล้วนเป็นพระอรหันต์ที่ได้รับการบวชจากพระพุทธเจ้าโดยตรงแทบทั้งสิ้น


พุทธศาสนิกชน มักนิยมทำบุญตักบาตรในวันมาฆบูชา
ความพร้อมกันของสิ่งมหัศจรรย์ทั้งสี่ (องค์ 4 ประการ) จึงเรียกวันนี้ ได้อีกอย่างว่า วันจาตุรงคสันนิบาต หรืออาจจะเรียกอีกอย่างได้ว่า วันพระธรรม เพราะว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทที่เป็นสุดยอดคำสอน เป็นการประมวลคำสอนหลักของพระพุทธศาสนา เพื่อให้พระสงฆ์สาวกและพุทธสานิกชนนำไปประพฤติปฏิบัติตาม

ในวันเพ็ญเดือนมาฆะยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญยิ่ง ในสมัยพุทธกาลหลังจากภายหลังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้และสั่งสอนพระธรรมมาเป็นระยะเวลา 45 ปีแล้ว พระองค์ตั้งพระทัยว่า "ต่อแต่นี้ไปอีก 3 เดือน เราจักเสด็จดับขันธปรินิพพาน" การตัดสินใจในครั้งนั้นเรียกว่า “การปลงอายุสังขาร” ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาในปีที่พระพุทธองค์มีพระชนมายุ 80 พระชันษา ณ ปาวาลเจดีย์ แคว้นวัชชี

ด้วยเหตุเหล่านี้ ในวันมาฆบูชาจึงถือว่าเป็นวันที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้า รวม 2 ประการ คือ เป็นวันที่แสดงโอวาทปาติโมกข์ และ เป็นวันปลงอายุสังขาร จึงนับว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในพระพุทธศาสนาสมควรที่ชาวพุทธจะแสดงความระลึกถึงและจัดพิธีบูชาให้เป็นพิเศษต่างไปจากวันพระตามปกติ

ส่วนที่เรียกว่า วันแห่งความรักแบบไทยๆ นั้น อาจเป็นเพราะพระพุทธศาสนาไม่เคยปฏิเสธวรรณะ พระพุทธองค์ทรงโปรดคนทุกคน ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ทุกคนเท่าเทียมกัน วันแห่งความรักของผู้นับถือพระพุทธศาสนาจึงมิใช่วันอื่นใด แต่เป็น "วันมาฆบูชา" ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 5 มีนาคมนี้...

เอ้า...พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ใครใกล้วัดไหนก็สารมารถไปเข้าวัด ทำบุญกันได้ตามแต่กำลังศรัทธานะจ๊ะ