พระคุณที่สาม
พ่อแม่คนที่สอง
เพราะคุณครู เหมือนพ่อแม่ คนที่สอง
เราจึงตอ้ง กราบไหว้ ให้เหนือเศียร
ดวงใจครู สุกปลั่ง ดั่งแสงเทียน
ส่องนักเรียน ให้สว่าง ทางปัญญา
สมควรที่ พวกเรา เฝ้าก้มกราบ
รักซึมซาบ กรุณา มหาศาล
เราจะรัก คุณครู คู่จักรวาล
แม้ลมปราณ สิ้นไป ไม่ลืมเลย ฯ
สักวันหนึ่งเถอะ
สักวันหนึ่ง เธอจะรู้ ว่าครูรัก
สักวันหนึ่ง คงประจักษ์ เป็นสักขี
สักวันหนึ่ง เธอจะรู้ ว่าครูดี
สักวันหนึ่ง จักได้ดี เพราะเชื่อครูฯ
น้ำฝนยังเป็นรอง
สักกวา คำว่าครู รู้กันทั่ว
ดีหรือชั่ว รักศิษย์ ไม่คิดหมอง
อันน้ำฝน ล้นบึง ท่วมถึงคลอง
ยังเป็นรอง น้ำใส ในใจครูฯ
ก้มกราบครูรู้สำนึก
คุณครูจ๋า.... โปรดทราบ ไว้สักนิด
ว่าดวงใจ ของศิษย์ คนึงหา
เคารพรัก เชิดชู และบูชา
เช่นมารดา บิดา ของศิษย์เอง
แม้บางครั้ง คุณครู จะหงุดหงิด
สั่งสอนศิษย์ ด้วยจิตใจ คล้ายข่มเหง
ศิษย์ทั้งกลัว ทั้งเศร้า ทั้งยำเกรง
ศิษย์ผิดเอง ทำครูให้ ไม่สบายใจ
ขอคุณครู ผู้มีคุณ การุณด้วย
โปรดจงช่วย อโหสิกรรม ศิษย์ทำไว้
ปลดเปลื้องบาป ออกไป จากใจกาย
โปรดอภัย ความผิดพลั้ง แต่หลังมา
นับแต่นี้ ศิษย์ฝึกตน เริ่มต้นใหม่
สำรวมกาย วาจาใจ ให้แน่นหนา
มิให้ผิด ต่อคุณครู ผู้เมตตา
ขอสัญญา ยุวสาสมาธิ หยุดต่ำทรามฯ
""พระคุณครู""
คือบุคคลผู้สานสร้างทางชีวิต
ท่านคือมิตรเห็นผิดชอบช่วยแก้ไข
หนึ่งชีวีมีสองมือหนึ่งหัวใจ คอยห่วงใยให้กำลังครั้งหมดแรง
คือบุคคลผู้คอยขัดคอยเกลากรวด
ท่านเข้มงวดจนเม็ดกรวดได้พราวแสง
กลายเป็นเพชรเม็ดงามราคาแพง พร้อมแสดงให้สังคมได้ภูมิใจ
คือบุคคลผู้มุ่งหวังจักสร้างศิษย์
ให้พร้อมคิดพร้อมสู้ไม่หวั่นไหว
จึงพร่ำสอนพร่ำสั่งปลูกฝังใจ ให้ศิษย์ได้เป็นคนกล้าท้าความจริง
คือบุคคลผู้ยอมเหนื่อยยอมลำบาก
แม้เหนื่อยยากยอมตรากตรำทำทุกสิ่ง
เพื่อจะได้เป็นร่มไม้ให้พักพิง ไม่ทอดทิ้งยามศิษย์พลั้งยังเฝ้าดู
คือบุคคลผู้ขึ้นชื่อแม่พิมพ์ชาติ
เหงื่อหยดหยาดแทบหมดกายยังยอมสู้
เพื่อให้สมเกียรติศักดิ์ศรีที่เป็นครู ตราเอาไว้ให้โลกรู้ว่าครูไทย
|