ปริศนาธรรม....๓ นิ้ว

 

 

 

ปริศนาธรรม....๓ นิ้ว

ณ วัดร้างกลางทางระหว่างมณฑล มีพระจีนผู้พี่และผู้น้องบำเพ็ญตบะอยู่...

 

ผู้พี่นั้นใจดีมีเมตตา ส่วนผู้น้องซึ่งมีตาซ้ายบอดสนิทเหลือตาขวาตาเดียว เป็นผู้ชอบแสดงตนว่ามีภูมิธรรมสูง...ชอบลองภูมิเอาชนะผู้อื่นอยู่เป็นนิจ โดยเฉพาะอาคันตุกะผู้มาเยือน ถ้าประสงค์จะขอค้างแรมที่วัดนี้ จำต้องผ่านด่านทดสอบปริศนาธรรมกับพระผู้น้องท่านนี้เสียก่อน...

 

และแล้ว วันหนึ่งมีบัณฑิตหนุ่มได้เดินทางผ่านมาใกล้ค่ำจึงเข้าพบพระผู้พี่เพื่อขอค้างแรม....

เมื่อทราบกฏกติกามารยาทตามเงื่อนไขที่กล่าวมาแล้ว ก็นึกยิ้มย่องในใจว่าภูมิปัญญาระดับเราต้องชนะการประลองแน่ เพราะเราก็ฉลาดพอตัว...!

 

เมื่อทั้งสองประจันหน้ากันเหมือนดั่งจอมยุทธผู้กล้า ต่างสอดส่ายสายตาจับจ้องซึ่งกันและกัน...

 

บัณฑิตหนุ่มคิดในใจว่า...ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก...หากเราแพ้เราคงต้องเสียชื่อเสียงเป็นที่น่าอับอาย...ฉะนั้น การชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ !....

และแล้วบัณฑิตหนุ่มจึงเปิดฉากก่อนเริ่มบรรเลงเพลงยุทธสื่อความหมายแทนใจทันที...พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก...

 

บัณฑิตหนุ่ม.....ยกแขนขวาแล้ว "ชูนิ้วชี้" ขึ้น...หมายถึง ๑ คือ พระพุทธ

 

พระผู้น้อง....ยืนจ้องหน้า..แล้ว ชูขึ้น ๒ นิ้ว !!...

 

บัณฑิตหนุ่ม...รู้สึกไม่มั่นใจ...แต่ก็ยังไม่ยอมถอย...พร้อมกับ ชูขึ้น ๓ นิ้ว!!!

 

พระผู้น้อง...สายตาจ้องเขม็ง...กลั้นหายใจ...แล้ว ยกมือขวาขึ้นกำแน่น!

 

.... และแล้ว...บัณฑิตหนุ่มก็รู้สึกตะลึงกับการพ่ายแพ้อย่างหมดรูป รีบวิ่งกลับไปด้วยความอับอายในภูมิปัญญาของตนเอง...เมื่อพบพระผู้พี่จึงบอกกล่าวคำอำลา พร้อมยกย่องภูมิธรรมของพระผู้น้องว่า...

 

บัณฑิตหนุ่ม...เราทะนงตัวเกินไป...ชู ๑ นิ้ว...หมายหถึงพระพุทธ!...เขาก็แน่ชูกลับมา ๒ นิ้ว...หมายถึง มีพระพุทธ ก็ต้องมีพระธรรม!!...เราชู ๓ นิ้ว...หมายถึง มีพระพุทธพระธรรม ก็ต้องมีพระสงฆ์!!! ...เขายกมือขึ้นกำแน่น....เราเพิ่งรู้เดี๋ยวนั้นเองว่า...พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว!...เราขอยอมแพ้...ผู้น้อยขออำลา...

 

หลังจากบัณฑิตหนุ่มเดินลับสายตาไปแล้ว...ก็มีเสียงตะโกนขึ้นขึ้นมา...มันอยู่ไหนๆ.... ??

 

พระผู้พี่....ร้องเรียกทำไม..เขาไปแล้ว...เจ้าชนะเขาคงสะใจล่ะซี...วิ่งมาหอบเชียว ??

 

พระผู้น้อง...ชนะกับผีอะไรล่ะ....!...ยั้วะถึงสุดขีดแล้ว...จะมาชกหน้ามัน..นี่แหละ...

 

พระผู้พี่...อ้าว...แล้วมันยังไงกันล่ะนี่.... ?

 

พระผู้น้อง...ท่านพี่...ลองคิดดูสิ...ฉันไม่เคยรู้จักมันเลย...อยู่ดีๆ มันก็มายืนยิ้มเยาะชู ๑นิ้ว...ล้อเลียนฉันว่า ฉันมีตาเดียว....ฉันอุตส่าห์ข่มใจนิดนึง...แถมชู ๒ นิ้ว...ว่าเขาโชคดีที่มีครบ ๒ ตา!!! มันยังดันทะลึ่ง ชูกลับมา ๓ นิ้ว...หาว่าฉันกับมันรวมกันแล้วมีแค่ ๓ ตา...!!!...ฉันงี้สุดทนชูกำปั้นขึ้นมา...มันก็ตกใจวิ่งหนี...ฉันก็รีบตามมาเนี่ย...โอย...เหนื่อย....

 

พระผู้พี่...! ?!... ส่ายหัว....โอ อมิตตาพุทธ...เวรกรรมๆ (ปัญญาสูงทั้งคู่!!)...

 

( คิดอย่างไร...ท่านผู้อ่าน)