ยิ้ม...ความหมายสำคัญอย่างหนึ่งของชีวิต

 
 


การยิ้มและหัวเราะร่างกายจะผลิตฮอร์โมน "ความสุข" ชื่อ เอนเดอร์ฟิน สามารถเป็นอาวุธร้ายที่จะต่อสู้กับความกลัว ความเครียดและสามารถหยุดมันก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะอันตรายได้ คนที่สามารถมองเห็นด้านที่สดใสของชีวิตและมองโลกในแง่ดี ไม่มีทางที่จะเจ็บป่วยเพราะความเครียดได้แน่ และคนที่จงใจยิ้มทุกครั้งที่มีโอกาส ก็คือ คนที่รู้จักช่วยตัวเอง รู้สึกผ่อนคลาย

การหัวเราะทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ทำให้ทุกระบบในร่างกายผ่อนคลาย และทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยบรรเทาความกังวลและความเจ็บปวด เสียงหัวเราะนี่เป็นยาระงับประสาทที่ดีที่สุดในโลก เมื่อคนเราสามารถหัวเราะให้กันและกันได้ ก็จะหายจากอาการประหม่า เสียงหัวเราะจะขับไล่ความรู้สึกเป็นปรปักษ์ที่เกิดขึ้น เวลาคนแปลกหน้ามาพบกันให้หมดไป รอยยิ้มเป็นเสมือนน้ำมันหยอดวงสังคม และทำให้คนใกล้ชิดสนิทสนมกันมากกว่าเดิม

การยิ้มและหัวเราะแสดงให้เห็นถึงบุคลิกเอื้อเฟื้อและอบอุ่น

เวลาที่เรายิ้ม จะใช้กล้ามเนื้อหลักเพียงส่วนเดียวเท่านั้น แต่ในขณะที่เราแสดงอารมณ์โศกเศร้าหรือโมโหนั้น เราต้องใช้กล้ามเนื้อหลายส่วน
การยิ้มช่วยให้คนเราสวยขึ้น มีเสน่ห์ กระปรี้ประเปร่า และอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
การยิ้มสามารถทำลายแรงกดดันในสถานการณ์ต่างๆ ได้ด้วย
มนุษย์วิทยาสังเกตพบว่า การยิ้มเห็นได้ชัด ไกลตั้ง 45 เมตร ในขณะที่อารมณ์อื่นๆ ต้องเข้าไปใกล้ๆ ถึงจะเห็น
มนุษย์รู้จักยิ้มให้กันตั้งแต่สมัยยุคหิน การยิ้มเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งต่อวงสังคม ต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ คนที่ยิ้มง่ายนั้น จะสมบูรณ์ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ สร้างฮอร์โมนบางชนิด และมีผลโดยตรงต่อการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต

การยิ้มใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้าเพียงส่วนเดียวเท่านั้น คือ กล้ามเนื้อขากรรไกร ซึ่งเริ่มตั้งแต่กระดูกแก้มมาจดมุมปาก แต่ในทางกลับกัน การแสดงความรู้สึกโศกเศร้า หรือรังเกียจ ต้องใช้กล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 ส่วน ทำให้ใบหน้าบิดเบี้ยว ยิ่งแสดงความรู้สึกโกรธขึ้งหรือเป็นทุกข์มากเท่าไร ก็ต้องใช้กล้ามเนื้อมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้สีหน้าที่ยิ้มแย้ม จึงแสดงได้ง่ายที่สุดด้วย

เวลาที่คนเราโกรธ หรือมีกิริยาก้าวร้าว ร่างกายจะผลิตสารอะดรีนาลินออกมามาก ทำให้พร้อมที่จะทำอะไรรุนแรงในทันทีแต่เวลาที่คนยิ้ม ระบบทุกอย่างในร่างกายจะผ่อนคลาย การทดลองต่างๆ ชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า การยิ้มเป็นการแสดงความรู้สึกอย่างเดียว ที่ทำให้ระบบภายในร่างกายผ่อนคลายลง ส่วนอารมณ์ที่เป็นไปในทางลบ การเต้นของหัวใจและความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นทันที


ศ.นพ.ดร.วิจิตร บุณยะโหตระ