เรื่องของไทยในอดีต

 


พ.ศ.๒๓๑๐
ศึกพม่าที่บางกุ้ง

มิถุนายน ๒๓๑๐
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ ยกพลขึ้นบกที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ เข้าตีค่ายพม่าได้ และเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี

๔ มิถุนายน ๒๓๑๐
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ นำกองทัพเข้าตีเมืองจันทบุรี

๑๔ มิถุนายน ๒๓๑๐
พระเจ้ากรุงธนบุรี เข้ายึดเมืองจันทบุรี

๓ สิงหาคม ๒๓๑๐
ทัพพม่ายกเข้าตีไทย ก่อนกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ครั้งที่ ๒

๕ พฤศจิกายน ๒๓๑๐
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ ยกทัพทางเรือ มีกำลังพลประมาณ ๕,๐๐๐ คน เรือรบ ๑๐๐ ลำ เข้าตีเมืองธนบุรีได้

๖ พฤศจิกายน ๒๓๑๐
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ ตีค่ายพม่าที่ค่ายโพธิ์สามต้น และค่ายอื่น ๆ แตกทุกค่าย สุกี้แม่ทัพใหญ่ตาย ถือเป็นวันกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ ในเวลาเพียง ๗ เดือน

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๓๑๐
วันพระราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) พระนามเดิม ฉิม ทรงเป็นพระราชโอรสองค์โต ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ และกรมสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถทั้งด้านการรบ และด้านศิลปะเป็นอันมาก ได้ทรงติดตามพระชนกนาถ ครั้งยังดำรงพระยศเป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกไปทำสงครามด้วยทุกครั้ง ได้ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีเรื่องต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องอิเหนา ซึ่งเป็นวรรณกรรมชั้นเลิศ ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสร ว่าเป็นบทละครในยอดเยี่ยม งานด้านการช่างประเภท แกะสลักด้วยฝีพระหัตถ์ อันเป็นผลงานของพระองค์ ซึ่งยังมีปรากฏอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้ได้แก่ ภาพแกะสลักบานประตูโบสถ์วัดสุทัศน์เทพวราราม

๒๘ ธันวาคม ๒๓๑๑
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ ปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ณ กรุงธนบุรี ขณะมีพระชนมายุได้ ๓๔ พรรษา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ หรือพระบรมราชา ที่ ๔ ทางราชการได้กำหนดให้วันที่ ๒๘ ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

พ.ศ.๒๓๑๒
ศึกเขมรครั้งที่ ๑

๑๗ กันยายน ๒๓๑๒
โปรดเกล้า ฯ ให้พระยาอินทวงศา มาจัดการปักเขตที่ดินให้แก่พวกคริสตังที่บางกอก คือ ตำบลกุฎีจีน

พ.ศ. ๒๓๑๓
ชาวฮอลันดา จากเมืองปัตตาเวีย และแขกเมืองตรังกานู เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ นำปืนคาบศิลามาถวาย จำนวน ๒,๒๐๐ กระบอก

๘ สิงหาคม ๒๓๑๓
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ ยกทัพไปตีเมืองพิษณุโลกครั้งที่ ๒ (ครั้งแรก พ.ศ.๒๓๑๑) หลวงโกษา (ยัง) ผู้รักษาเมืองหนีไปเมืองสวางคบุรี

๔ ตุลาคม ๒๓๑๓
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี

พ.ศ.๒๓๑๔
ศึกเมืองเชียงใหม่

พ.ศ.๒๓๑๔
ศึกเขมรครั้งที่ ๒

พ.ศ.๒๓๑๕ - ๒๓๑๖
ศึกพม่าตีเมืองพิชัย

๕ มกราคม ๒๓๑๖
พม่ายกทัพมาตีเมืองพิชัย พระยาพิชัย ยกทัพต่อสู้โดยถือดาบ ๒ เล่ม เข้าทะลวงฟันพม่าอย่างไม่ลดละ จนดาบหักทั้ง ๒ เล่ม และทัพพม่าแตกกระเจิงไป เกียรติคุณพระยาพิชัยจึงเลื่องลือ และได้รับนามว่า "พระยาพิชัยดาบหัก"

พ.ศ.๒๓๑๔
ศึกเมืองเชียงใหม่

๑๕ มกราคม ๒๓๑๗
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ ทรงตีเมืองเชียงใหม่จากพม่า

พ.ศ.๒๓๑๘
ศึกบางแก้ว

๑๓ มีนาคม ๒๓๑๘
เป็นวันที่อะแซหวุ่นกี้ ขอดูตัว เจ้าพระยาจักรีที่พิษณุโลก ขณะนั้นอะแซหวุ่นกี้อายุ ๗๒ ปี เจ้าพระยาจักรีอายุ ๓๘ ปี และพม่าล้อมพิษณุโลก ๔ เดือน จึงจะเข้าตีพิษณุโลกได้

๑๖ มีนาคม ๒๓๑๘
เจ้าพระยาจักรีรบพุ่งกับอะแซหวุ่นกี้ พม่าล้อมพิษณุโลก ๔ เดือน จึงจะเข้าเมืองพิษณุโลกได้

พ.ศ.๒๓๑๙
ศึกเมืองจำปาศักดิ์

พ.ศ.๒๓๑๙
ศึกพม่าตีเมืองเชียงใหม่

พ.ศ.๒๓๑๙
ฟรานซิส ไลท์ ชาวอังกฤษ ถวายเครื่องราชบรรณาการและปืนนกสับ จำนวน ๑,๔๐๐ กระบอก แด่สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ

พ.ศ.๒๓๒๑
ศึกตีเวียงจันทร์

พ.ศ.๒๓๒๒
พวกโปตุเกสและพวกแขกมัวร์จากเมืองสุวัต ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกส ได้เดินทางมาติดต่อค้าขายกับไทย และไทยได้ส่งสำเภาหลวงติดต่อค้าขายกับอาณานิคมของโปรตุเกสด้วย เช่น อินเดีย

๑๓ กันยายน ๒๓๒๒
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ เมื่อครั้งเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง) แม่ทัพไทยสมัยกรุงธนบุรี ได้ยกกองทัพเข้าตีเมืองเวียงจันทน์ได้ และได้อัญเชิญพระแก้วมรกต จากเวียงจันทน์ มาประดิษฐานที่กรุงธนบุรี

พ.ศ.๒๓๒๓
ศึกเมืองเขมร ครั้งที่ ๓ พ.ศ.๒๓๒๓

พ.ศ.๒๓๒๔
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ ทรงส่งทูตไปประเทศจีน

พ.ศ.๒๓๒๔
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเจ้าพระยาสุรสีห์ ยกทัพไปปราบปรามเขมร แต่ต้องยกทัพกลับ เนื่องจากกรุงธนบุรีเกิดจลาจล

๓ เมษายน ๒๓๒๕
วันที่สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก เสด็จกลับจากเขมร

๖ เมษายน ๒๓๒๕
สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ปราบกบฎที่กรุงธนบุรีสำเร็จ ราษฎรและบรรดามหาอำมาตย์พร้อมใจกันเชิญให้ขึ้นครองราชย์ เมื่อพระชนมายุได้ ๔๘ พรรษา

๖ เมษายน ๒๓๒๕
พระเจ้าตากสินมหาราช สวรรคต