ทางเลือก
ในยุคนี้การเป็นอยู่ในสังคมไทยเรา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรอบรู้ให้ทันโลกทันเหตุการณ์ มีสังเกตอย่างรอบคอบ และระมัดระวังให้รอบด้าน ต่อการดำรงชีวิตอยู่ โดยเฉพาะชีวิตในวัยรุ่น การศึกษากับความสำเร็จ , ความรักกับความสมหวัง , ความใฝ่ฝันกับการมีอนาคตที่ดี นั้นเป็นของคู่กัน แต่มักมีสิ่งที่ตรงข้ามเสมอ
ทางเดินของชีวิตมีได้หลายทาง ขึ้นอยู่กับผู้เดิน ทิศทางที่จะเลือก ว่าตามเพื่อน , ตามพ่อแม่ , ตามคนอื่น หรือตามใจตนเอง ชีวิตคนมิใช่เพียงมีชีวิตเดียวแต่ยังสั้นอีกต่างหาก สถานที่ดีๆ สถาบันดีๆ วัดวาอารามดีๆก็มีมาก คลับ บาร์ เธค สถานเริงรมย์ยามราตรีที่เสี่ยงต่ออันตรายก็มากเช่นกัน สิ่งดีๆน่าสนใจ น่าศึกษาเรียนรู้จดจำก็มี สิ่งเลวร้าย น่ากลัว อันตรายก็มาก โดยเฉพาะคนดีก็มี คนชั่วก็มาก ทั้งในเมือง ในสถานศึกษา ในบ้าน และตามถนนหนทาง
คนโบราณสอนไว้ว่า คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ นั้นเป็นการให้เรารู้จักใช้สติปัญญาพิจารณาว่า อย่าสนิทสนม ( รักใคร่ ) กับใครง่ายๆ จนเร็วเกินไป ควรดูกันนานๆ ดูนิสัย ( สันดาน ) ดูการพูด การคิด การกระทำ ดูการใช้อารมณ์ เหตุผลและสติปัญญาของเขาเหล่านั้นให้ถ้วนทั่วอย่างแท้จริง ซึ่งคำพระท่านว่า ถ้าไม่ได้เพื่อนที่ดีกว่าตน คนเดียวเทียวไปประเสริฐกว่า เพราะการเดินทางร่วมกับคนไม่ดีมีแต่ขาดทุน จำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรเลือกหา กัลยาณมิตร ( มิตรแท้ )
มิตรแท้ ๔ จำพวก มิตรเทียม ๔ จำพวก
๑ . มิตรมีอุปการะ มีลักษณะ ๔ ๑ . คนปอกลอก มีลักษณะ ๔
* ป้องกันเพื่อนผู้ประมาทแล้ว * คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
* ป้องกันทรัพย์สมบัติของเพื่อนผู้ประมาทแล้ว * เสียให้น้อย คิดเอาให้ได้มาก
* เมื่อมีภัย เป็นที่พึ่งพำนักได้ * เมื่อมีภัยแก่ตัว จึงรับทำกิจของเพื่อน
* เมื่อมีธุระ ช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออกปาก * คบเพื่อนเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ตัว
๒ . มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข มีลักษณะ ๔ ๒ . คนดีแต่พูด มีลักษณะ ๔
* บอกความลับของตนแก่เพื่อน * เก็บเอาของล่วงแล้วมาพูด
* ปิดความลับของเพื่อนไม่แพร่งพราย * อ้างเอาสิ่งที่ยังไม่มีมาพูด
* ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ * สงเคราะห์ด้วยสิ่งหาประโยชน์ไม่ได้
* แม้ชีวิตก็อาจสละแทนได้ * ออกปากพึ่งไม่ได้
๓ . มิตรแนะประโยชน์ มีลักษณะ ๔ ๓ . คนหัวประจบ มีลักษณะ ๔
* ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว * จะทำชั่วก็คล้อยตาม
* แนะนำให้ตั้งอยู่ในความดี * จะทำดีก็คล้อยตาม
* ให้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง * ต่อหน้าว่าสรรเสริญ
* บอกทางสวรรค์ให้ * ลับหลังตั้งนินทา
๔ . มิตรมีความรักใคร่ มีลักษณะ ๔ ๔ . คนชักชวนในทางฉิบหาย มีลักษณะ ๔
* เพื่อนทุกข์ ทุกข์ด้วย * ชักชวนดื่มน้ำเมา
* เพื่อนสุขสุขด้วย * ชักชวนเที่ยวกลางคืน
* ยับยั้งคนที่พูดติเตียนเพื่อน * ชักชวนให้มัวเมาในการเล่น
* รับรองคนที่พูดสรรเสริญเพื่อน * ชักชวนในการเล่นการพนัน
เพื่อนดี มีหนึ่ง ถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา
เกลือดี มีน้อย ด้อยราคา
ยังดีกว่า มีน้ำเค็ม เต็มทะเล
เวลาของชีวิตที่ผ่านไปยิ่งมากเท่าไร ยิ่งเป็นการพิสูจน์ความเป็นเพื่อนได้มากเท่านั้น
วันหนึ่งในอนาคตข้างหน้าเมื่อเธอหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอีก อย่าลืมทบทวนบทเรียนขอชีวิตและความเป็นจริง แต่ถ้าถึงจุดอับขอชีวิตที่เธอคิดว่าไม่มีใครอีกแล้ว จงอย่าลืมว่าเธอยังมีเพื่อนที่ดีที่สุดอีกคนหนึ่งที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเธอเสมอ คือตัวของเธอเอง เพราะเขาเกิดมากับเธอ และรอวันที่จะดับไปพร้อมๆกับเธอ จงรู้สึกและสำนึกตัวก่อนที่จะสาย เร่งทำความดีกลับคืนสู่แผ่นดิน อย่างคนไม่เห็นแก่ตัว
จงมองชีวิตสองด้าน
.
ชีวิตมิใช่จะมีแต่ด้านที่สวยงาม
และก็มิใช่มีแต่ความโหดร้าย
สิ่งสำคัญคือ ต้องเรียนรู้ ที่จะจัดการกับมัน
บางครั้งชนะ บางครั้งก็พ่ายแพ้
บ้างก็จบลงด้วยเสียงหัวเราะ
บ้างก็จบลงด้วยคราบของน้ำตา
เดี๋ยวก็ทุกข์ เดี๋ยวก็สุข
สมหวัง และก็ผิดหวัง
มีทั้งทำถูกและก็ทำผิด
ด้วยโลภะ โทสะ โมหะ
แต่ทุกบทบาทของชีวิต เป็นบทเรียนที่สูงค่า
จงมองชีวิตทั้งสองด้านอย่างฉลาด
ขอให้ความผิดพลาดเป็นบทเรียน
ความสำเร็จเป็นกำลังใจ
แสวงหาสัจธรรม
วันที่สุขที่สุด สุดสดใส
มิใช่ยามเยาว์วัยไร้เดียงสา
แต่เป็นวัยที่ผันผ่านกาลเวลา
เกิดปัญญารู้ชัด สัจธรรม
เมื่อก่อน
. เคยคิดว่าชีวิตบังคับได้
แต่มิใช่ระวังใจไม่ถลำ
ทุกสิ่งไซร้กำหนดกฎแห่งกรรม
พุทธธรรมสอนชีวิต อนิจจัง
ร่างกายเจริญสุดแล้วทรุดลง
ไม่ยืนยงให้เห็นเป็น ทุกขัง
สรรพสิ่งล้วนแต่ได้ไม่จีรัง
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
มีสิ่งใดควรทำทำวันนี้
อย่ารอรีผัดผ่อนผ่อนวันหน้า
หากถึงวันสิ้นสุดสุดเวลา
ก็จะสายเกินกว่ากว่าสิ่งใด
ความสุขก็ยึดยึดไว้มิได้ดอก
ความทุกข์ก็หลอกหลอกจริงที่ไหน ?
ทุกสิ่งเพียงผ่านมาแล้วแล้วจากไป
เหลือไว้แต่ความว่างว่างอย่างนั้นเอง
.
ทางลัดในชีวิต
เช้าที่แจ่มใสในป่าโปร่ง เจ้านกน้อยสีสวยบนกิ่งไม้ มองคนผ่านทางอย่างสนใจ
ชายผู้นั้นถือกล่องเล็กๆอยู่ในมือ
อะไรหรือในมือท่าน ? เจ้านกอารมณ์ดีร้องถาม
หนอน เขาตอบตรงและสั้น
ขายราคาเท่าไร ?
ขนนกหนึ่งขน
นกน้อยดึงขนจากตัวหนึ่งอันร่วงลงในมือเขา นกจิกหนอนจากกล่องไปตัวหนึ่ง กลืนลงคอ
อย่างรวดเร็ว แล้วบินขึ้นสู่ยอดไม้ ขันคูเป็นบทเพลงเสนาะ
จะดิ้นรนไปไย หากินง่ายดังนี้
วันเวลาผ่านไป ขนนกหนึ่งอันกับหนอนวันละตัว ไม่ช้าไม่นาน นกเจ้าสำราญก็ไร้สิ้นปีกหาง
หมดกลางตลอดตัว
บัดนี้นกไร้ขนจึงคิดจะดิ้นรนออกหากินก็สายเสียแล้ว บินก็ไม่ได้ รูปกายก็อัปลักษณ์เกินกว่าจะร้องเพลงให้ใครฟังได้อีก
ทางลัดในชีวิตนั้นมีอยู่ แต่ทางสู่ความสำเร็จไม่มีวิธีลัด
หนทางที่ใกล้ที่สุดคือทำงาน |