คำคมบ่มชีวิต

รับมือมรสุม แห่งคาวมเศร้า

ยามตกงาน, แท้งบุตร หรือสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต

เรื่องเศร้าเหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่มีมนุษย์หน้าไหนควบคุมได้ แต่รักษาอาการได้นะ หากคุณมีเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กายที่ช่วยปลอบโยนและเห็นใจกันในยามยาก

ใน We Can Get Through This ...หรือเราสามารถผ่านพ้นมรสุมนี้ไปได้ ถ้าเพียงแต่เราจะเข้าใกล้กันให้มากขึ้นอีกนิด (ช่วยเติมให้) เช่น ถ้าเป็นโสดก็ควรมีเพื่อนไว้คอยปรับทุกข์ ไม่ใช่เก็บปัญหาเอาไว้เสียคนเดียว แต่หากเป็นคนที่มีคู่ครองแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณต้องรู้หน้าที่แล้วละว่า คุณควรทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยการเป็นปีกคอยพยุงคนรัก ให้รอดพ้นปัญหาที่เอาแต่จะกระหน่ำซ้ำเติมกันเข้ามาให้ได้

เมื่อเจ็บป่วย, ผิดหวังและสูญเสีย แวะเวียนเข้าใส่ทั้งโดยตั้งตัวหรือไม่ทันตั้งใจ อย่าลืมแก้วิกฤติด้วยการ...

เพิ่มความใกล้ชิด

ปรกติทุกคนจะมีจังหวะจะโคนในกิจวัตรด้านกายภาพ, จิตเวชและอารมณ์สม่ำเสมอ ในยามที่ไร้ปัญหา แต่ระดับของความปรกติจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อถูกปัญหาถาโถมเข้าใส่ ดังนั้น สิ่งที่จะเยียวยารักษาคนที่ฟกช้ำดำเขียวมาจากสารพัดปัญหาก็คือ พลังของสัมผัส

 

 



อ้าว อย่าดูถูกการจับมือกันในยามน้ำตาซึมนะ หรือถ้ารักมาก จะดึงเขามาโอบกอดเสียเลยก็ยังได้ ไม่งั้นอาจใช้วิธีพาดศีรษะของคุณไว้ที่ไหล่ของเขา อากัปกิริยาแบบนี้แทบไม่ต้องใช้คำพูดก็ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่า ถึงจนตรอกยังไง เขาก็ยังมีคุณอยู่ เป็นวิธีที่สร้างหวังและกำลังใจได้ดีทีเดียว

เบรกความเศร้า ด้วยการชวนเขาออกไปข้างนอก

อย่าปล่อยให้เขาจมอยู่แต่ในบ้าน ลองชวนเขาเล่นฟุตบอลดีไหม หรือพากันออกไปดูหนัง ถ้าเขายังไม่กล้าออกไปเผชิญสังคม แค่ชวนกันเดินเล่นสักครู่ แค่นี้ก็ช่วยได้มาก
พูดคุยถึงเรื่องที่สามารถสร้างประกายให้เขามีแรงบันดาลใจใหม่ๆ

มีน้ำอดน้ำทน

ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน เมื่อคนใกล้ชิดของคุณไม่สบายใจ แน่นอนย่อมส่งผลให้คุณร้อนใจไปด้วย แต่ให้ท่องไว้ว่า พยายามหลีกเลี่ยงการมีปากมีเสียงกัน หากเกิดอะไรนิดอะไรหน่อยอย่าใช้วิธีตำหนิตรงๆ แต่ละคนล้วนเครียดอยู่แล้ว อย่าไปดึงเชือกให้มันตึงขึ้นมาอีก

สุดท้าย ถ้าท้อแท้เมื่อไหร่หรือช่วยกันเองไม่ได้ ให้ดิ้นรนหาที่ปรึกษาอื่นๆ อย่าเผลอทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด

มรสุมแห่งความเศร้า ถ้าร่วมกันรับมือ ต่อให้พายุลูกนี้จะร้ายแค่ไหน เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง
คนสมถะ