เป็นสัจจังหวังจิตสนิทถนอม
งามละม่อมมิ่งขวัญอย่าหวั่นไหว
จงโอนอ่อนผ่อนตามความอาลัย
ให้ชื่นใจเสียรู้แล้วเถิดแก้วตา (สุนทรภู่)


ด้วยรอยยิ้มใดในดวงหน้า
ทาบทาแห่งเจ้าเย้าหวาน
อุ่นเถิด-อวลดื่นชื่นบานฯ
เนิ่นนานย่อมการกร้านโรย

โดยกลั่นวันวาร-กาลได้กร่อน
ห้องใจไหวอ่อน-ผ่อน,โหย
ด้วยปีกแห่งรักจักโบย-
บินโบกได้โดย-เสรีใจ

บทเพลงวันใหม่ได้อุ่น
เกินคุ้นกว่าเคยเอ่ย-ไหม?
ส่ำเสียงคนจรถอนใจ
เงียบแล้วแผ่วไกล-ความจริง

เลือนลับดับหวังดังมืดบอด
เรือใจรั่วจอดรอจมดิ่ง-
สู่ก้นสายธารของสิ่งจริง
หยุดนิ่งทิ้งไว้-ไร้ร่องรอย

โดยยิ้มใดหนอต่อดวงหน้า
ยิ้มทั้งน้ำตาว่าปลดปล่อย
ปล่อยความปวดร้าวหรือหัวใจ
หรือเพียงปล่อยไปให้พ้นตัว (รังไม้)
เสียงครืนครืน...กึกก้องนั่งร้องไห้
เสียงปลอบใจไหนหนอก่อหรรษา
เสียงนั้นบอกออกห่างทางโศกา
เสียงสัญญาพาฝันนิรันดร

ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้เกิดใต้ฟ้าสุธาธาร
ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา

แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ
พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา
เชยผกาโกสุมประทุมทอง

เจ้าเป็นถ้ำอำไพขอให้พี่
เป็นราชสีห์สิ่งสู่เป็นคู่สอง
จะติดตามทรามสงวนนวลละออง
เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป

 

ด้วยรอยยิ้มใดในดวงหน้า
ทาบทาแห่งเจ้าเย้าหวาน
อุ่นเถิด-อวลดื่นชื่นบานฯ
เนิ่นนานย่อมการกร้านโรย

โดยกลั่นวันวาร-กาลได้กร่อน
ห้องใจไหวอ่อน-ผ่อน,โหย
ด้วยปีกแห่งรักจักโบย-
บินโบกได้โดย-เสรีใจ

บทเพลงวันใหม่ได้อุ่น
เกินคุ้นกว่าเคยเอ่ย-ไหม?
ส่ำเสียงคนจรถอนใจ
เงียบแล้วแผ่วไกล-ความจริง

เลือนลับดับหวังดังมืดบอด
เรือใจรั่วจอดรอจมดิ่ง-
สู่ก้นสายธารของสิ่งจริง
หยุดนิ่งทิ้งไว้-ไร้ร่องรอย