พระวินัยปิฎก
พระอนุบัญญัติ 2
อนึ่ง ภิกษุใดถึงพร้อมซึ่งสิกขา และสาชีพของภิกษุทั้งหลาย
แล้วไม่บอกคืนสิกขา ไม่ทำความเป็นผู้ทุรพลให้แจ้ง เสพเมถุนธรรม โดยที่สุดแม้ในสัตว์ดิรัจฉาน เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้
สิกขาบทวิภังค์
ที่ชื่อว่าเมถุนธรรม มีอธิบายว่า ธรรมของอสัตบุรุษ ประเพณีของชาวบ้าน มรรยาทของคนชั้นต่ำ ธรรมอันชั่วหยาบ ธรรมอันมีน้ำเป็นที่สุด กิจที่ควรซ่อนเร้น ธรรมอันคนเป็นคู่ ๆ พึงปฏิบัติร่วมกัน นี้ชื่อว่า เมถุนธรรม
ที่ชื่อว่า เสพ ความว่า ภิกษุใด สอดนิมิตเข้าไปทางนิมิต สอดองค์กำเนิดเข้าไปในองค์กำเนิด โดยที่สุดแม้ชั่วเมล็ดงา ภิกษุนั้นชื่อว่า เสพ
คำว่า โดยที่สุดแม้ในสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ความว่า ภิกษุเสพเมถุนธรรมแม้ในสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร
คำว่า เป็นปาราชิก ความว่าบุรุษถูกตัดศีรษะแล้ว ไม่อาจมีสรีระคุมกันนั้นเป็นอยู่ชื่อแม้ใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน เสพเมถุนธรรมแล้วย่อมไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร
บทว่าหาสังวาสมิได้ ความว่าที่ชื่อว่าสังวาส ได้แก่กรรมที่พึงทำร่วมกัน อุเทสที่พึงสวดร่วมกัน ความเป็นผู้มีสิกขาเสมอกัน
บทภาชนีย มรรคภาณวาร
หญิง 3 จำพวก คือ มนุษย์ผู้หญิง 1 อมนุษย์ผู้หญิง 1 สัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย 1
อุภโตพยัญชนก 3 จำพวก คือ มนุษย์อุภโตพยัญชนก 1 อมนุษย์อุภโตพยัญชนก 1 สัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนก 1
บัณเฑาะก์ 3 จำพวก คือ มนุษย์บัณเฑาะก์ 1 อมนุษย์บัณเฑาะก์ 1 สัตว์ดิรัจฉานบัณเฑาะก์ 1
ชาย 3 จำพวก คือ มนุษย์ผู้ชาย 1 อมนุษย์ผู้ชาย 1 สัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ 1
หญิง 3 จำพวก มีมรรคพวกละ 3 เป็น 9 ภิกษุเสพเมถุนธรรมใน 3 คือ วัจจมรรค ปัสสาวมรรค มุขมรรค ของมนุษย์ผู้หญิง ของอมนุษย์ผู้หญิง ของสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ต้องอาบัติปาราชิก
อุภโตพยัญชนก 3 จำพวก มีมรรคพวกละสาม เป็น 9 ภิกษุเสพ ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
บัณเฑาะก์ 3 จำพวก มีมรรคพวกละ 2 เป็น 6 ภิษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 2 คือ วัจจมรรค มุขมรรค ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
ชาย 3 จำพวก มีมรรคพวกละ 2 เป็น 6 ภิกษุเสพเมถุนธรรมในมรรค 2 คือ วัจจมรรค มุขมรรค ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
อาบัติปาราชิก 30
เมื่อเสวนจิตปรากฎ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก มี 3 ข้อ ของอมนุษย์ผู้หญิงมี 3 ข้อ ในสัตว์ดิรัจฉานตัวเมียมี 3 ข้อ ในอมนุษย์อุภโตพยัญชนกมี 3 ข้อ ในสัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนก มี 3 ข้อ ในมนุษย์บัณเฑาะก์มี 2 ข้อ ในสัตว์ดิรัจฉานบัญเฑาะก์มี 2 ข้อ ในอมนุษย์บัณเฑาะก์มี 2 ข้อ ในมนุษย์ผู้ชายมี 2 ข้อ ในสัตว์ดิรัจฉานตัวผู้มี 2 ข้อ ต้องอาบัติปาราชิก
บทภาชนีย อสันถตภาวาร
1. หมวดมนุสสิตถี 27 จตุกะกะ
มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ
1. พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงเข้ามาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด ด้วยวัจจมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงแล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนตัวออก ต้องอาบัติปาราชิก
ถ้าไม่ยินดีการเข้าไป แต่ยินดีการเข้าไปถึงแล้ว ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
ถ้าไม่ยินดี ฯลฯ แต่ยินดีการถอนตัวออก ต้องอาบัติปาราชิก
ถ้าไม่ยินดี ฯลฯ ไม่ต้องอาบัติ
2. ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ฯลฯ
3. ให้อมองค์กำเนิดด้วยมุขมรรค ฯลฯ
4.-6. มนุสสิตถี ชาครันติจตุกกะ พามนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่นมาแล้วให้ ทับ คร่อม อม องค์กำเนิดด้วย ฯลฯ
7.-9. มนุสสิตถี สุตตะจตุกกะ พามนุษย์ผู้หญิงผู้หลับมาแล้วให้ ทับ คร่อม อม องค์กำเนิดด้วย ฯลฯ
10.-12. มนุสสิตถี มัตตะจตุกกะ พามนุษย์ผู้หญิงผู้เมามาแล้วให้ ทับ คร่อม อม องค์กำเนิดด้วย ฯลฯ
13.-15. มนุสสิตถี อุมมัตตะจตุกกะ มนุษย์ พามนุษย์ผู้หญิงวิกลจริตมาแล้วให้ ทับ คร่อม อม องค์กำเนิดด้วย ฯลฯ
16.-18. มนุสสิตถี ปมัตตะจตุกกะ พามนุษย์ผู้หญิงผู้เผลอสติมาแล้วให้ ทับ คร่อม อม
องค์กำเนิดด้วย ฯลฯ
19.-21. มนุสสิตถี มตอักขาปิตะจตุกกะ พามนุษย์ผู้หญิงที่ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดมาแล้วให้ ทับ คร่อม อม องค์กำเนิดด้วย ฯลฯ
22.-24. มนุสสิตถี มตเยภุยอักขายิตะจุตกกะ พามนุษย์ผู้หญิงที่ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมากมา แล้วให้ทับ คร่อม อม องค์กำเนิดด้วย ฯลฯ
25.-27. มุนสสิตถี มตเยภุยยะขายิตะจุตกกะ พามนุษย์ผู้หญิงที่ตายแล้วถูกสัตว์โดยมากมาแล้วให้ทับ คร่อม อม องค์กำเนิดด้วย ฯลฯ ถ้ายินดีต้องอาบัติถุลลัจจัย
2. หมวดอมุสสิตถี 27 จตุกกะ
อนุสสิตถี สิทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุ เป็นข้าศึกพาอมนุษย์หญิง.....อมนุษย์ผู้หญิงผู้ตื่น.....ผู้หลับ ผู้เมา ผู้วิกลจริต ผู้เผลอสติ ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก มาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิด ด้วยวัจจมรรค ให้คร่อมองค์กำเนิดด้วยปัสสาวมรรค ให้อมองค์กำเนิดด้วยมุขมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ต้องอาบัติปาราชิก
ในอมนุษย์ผู้หญิง ผู้ตายแล้ว ถูกสัตว์กัดโดยมาก ถ้ายินดีต้องอาบัติถุลลัจจัย
3. หมวดดิรัจฉานคตติถี 27 จตุกกะ
ดิรัจฉานคติตถี สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึกพาสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย.....สัตว์ดิรัจฉานตัวเมียผู้ตื่น.....ผู้หลับ.....ผู้เมา.....
ผู้วิกลตริต .....ผู้เผลอสติ.....ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัด.....ผู้ตายแล้วยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก มาในสำนักภิกษุ แล้วให้ทับองค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค.....ด้วยปัสสาวมรรค.....ด้วยมุขมรรค ถ้าเธอยินดีการเข้าไป
ต้องอาบัติปาราชิก.....สัตว์ดิรัจฉานตัวเมียผู้ตายแล้วถูกกัดโดยมาก ต้องอาบัติถุลลัจจัย
ถ้าไม่ยินดีไม่ต้องอาบัติ
4. หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนะ 27 จตุกกะ
มนุสสะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุสสะอุภโตพยัญชนะ ฯลฯ ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ
ต้องอาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดีไม่ต้องอาบัติ
5. หมวดอมนุสสะอุภโตพยัญชนะ 27 จตุกกะ
อมนุสสะอุภโตพยัญชนก สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาอมนุสสะอุภโตพยัญชนก ฯลฯ ถ้ายินดีการเข้าไป ต้องอาบัติปาราชิก ฯลฯ
อาบัติถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดีไม่ต้องอาบัติ
6. หมวดดิรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนะ 27 จตุกกะ
ดิรัจฉานคตะอุภโตพยัญชนะ สุทธิกะจตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก ฯลฯ ถ้ายินดีต้องอาบัติปาราชิก.....ถุลลัจจัย ถ้าไม่ยินดีไม่ต้องอาบัติ
7. หมวดมนุสสะบัณฑกะ 18 จตุกกะ
1.-18. มนุสสะบัณฑกะ สุทธิกะจตุกกะ ชาครันตะจตุกกะ สุตตะจตุกกะ ปัตตะจตุกกะ อุมมัตตะจตุกกะ ปมัตตะจุตกกะ มตอักขายิตะจตุกกะ มตเยภุยยะอักขายิตรจตุกกะ มตเยภุยยะขายิตะจตุกกะ ทับ อม
8. หมวดอมนุสสะบัณฑกะ 18 จตุกกะ
9. หมวดดิรัจฉานคตะบัณฑกะ 18 จตุกกะ
10. หมวดมนุสสหุริสะ 18 จตุกกะ
11. หมวด อมนุสสปุริสะ 18 จตุกกะ
12. หมวดดิรัจฉานคตะปุริสสะ 18 จตุกกะ
บทภาชนีย สันกตภาณวาร
1. หมวดมนุสสิตถี 27 จตุกกะ (ทับ คร่อม อม)
1. มนุสสิสถี สุทธิกะจตุกกะ พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พามนุษย์ผู้หญิงมาแล้วให้ทับ คร่อม อม องค์กำเนิดด้วยวัจจมรรค หญิงมีเครื่องลาด ภิกษุไม่มีเครื่องลาด 1 หญิงไม่มีเครื่องลาด ภิกษุมีเครื่องลาด 1 หญิงมีเครื่องลาด ภิกษุก็มีเครื่องลาด 1 หญิงไม่มีเครื่องลาด ภิกษุก็ไม่มีเครื่องลาด 1 ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก ไม่ยินดีไม่ต้องอาบัติ
2.-3. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ คร่อม อม
4.-27. มนุสสิตถี ชาครันตีจตุกกะ สุตตะจตุกกะ มัตตะจตุกกะ อุมมัตตะจตุกกะ ปมัตตะจตุกกะ มตะอักขายิตะจตุกกะ มตะเยภุยยะอักขายิตะจตุกกะ มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ ทับ คร่อม อม
2. หมวดอมนุสสิตถี 27 จตุกกะ
3. หมวดดิรัจฉานคติตถี 27 จตุกกะ
4. หมวดมนุสสะอุภโตพยัญชนะ 27 จตุกกะ
5. หมวดอมนุสละอุภโตพยัญชนะ 27 จตุกกะ
6. หมวดดิรัจฉานคตะพยัญชนะ 27 จตุกกะ
7. หมวดมนุสสะบัณฑกะ 18 จตุกกะ
8. อมนุสสะบัณฑกะ 18 จตุกกะ
9. หมวดดิรัจฉานนุคตะบัณฑกะ 18 จตุกกะ
10. หมวดมนุสสปุริสะ 18 จตุกกะ
11. หมวดอมนุสสปุริสะ 18 จตุกกะ
12. หมวดดิรัจฉานคตะปุริสะ 18 จตุกกะ
บทภาชนีย อสันกตภาณวาร
1. หมวดมนุสสิตถี 27 จตุกกะ
มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ (ยอนวัจ) พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสำนักมนุษย์ผู้หญิง แล้วให้ยอน
วัจจมรรคด้วยองค์กำเนิด ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
2. หมวดอมนุสสิตถี 27 จตุกกะ
3. หมวดดิรัจฉานคติตถี 27 จตุกกะ
ฯลฯ
12. หมวดดิรัจฉานคตะปุริสะ 18 จตุกกะ
บทภาชนีย สันกตภาณวาร
1. หมวดมนุสสิตถี 27 จตุกกะ
1. มนุสสิตถี สุทธิกะจตุกกะ (ยอนวัจ) พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก พาภิกษุมาในสำนักมนุษย์ ผู้หญิง แล้วให้ยอนวัจจมรรคด้วยองค์กำเนิด คือของภิกษุมีเครื่องลาด ฯลฯ
ฯลฯ
27. มนุสสิตถี มตะเยภุยยะขายิตะจตุกกะ (ยอนปาก) ฯลฯ
2. หมวดอมนุสสิตถี 27 จตุกกะ
ฯลฯ
12. หมวดดิรัจฉานคตะบัณฑกะ 18 จตุกกะ
พวกภิกษุผู้เป็นข้าศึก เราให้พิศดารแล้วฉันใด พวกพระราชาผู้เป็นข้าศึก พวกโจรผู้ร้าย ผู้เป็นข้าศึก พวกนักเลงผู้เป็นข้าศึก พวกมนุษย์ผู้ตัดหัวใจผู้เป็นข้าศึก บัณฑิตพีงให้พิศดารฉันนั้น
ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้ามรรคทางมรรค ต้องอาบัติปาราชิก
สอดองค์กำเนิดเข้าอมรรคทางอมรรค ต้องอาบัติปาราชิก
สอดองค์กำเนิดเข้ามรรคทางอมรรค ต้องอาบัติปาราชิก
สอดองค์กำเนิดเข้าอมรรคทางอมรรค ต้องอาบัติถุลลัจจัย
ภิกษุปฏิบัติผิดในภิกษุผู้หลับ เธอตื่นขึ้นแล้วยินดี พระวินัยพึงมาสนะเสียทั้งสองรูป
เธอตื่นขึ้นแล้วไม่ยินดี พระวินัยธรพึงมาสนะภิกษุผู้ประทุษร้าย
ภิกษุปฏิบัติผิดในสามเณรผู้หลับ ฯลฯ
สามเณรปฏิบัติผิดต่อภิกษุผู้หลับ ฯลฯ
|