พระวินัยปิฎก
อนาบัติติวาร
ภิกษุไม่รู้สึกตัว 1 ภิกษุวิกลจริต 1 ภิกษุผู้มีจิตฟุ้งซ่าน 1 ภิกษุผู้กระสับกระส่ายเพราะ เวทนา 1 ภิกษุอาทิกับมิกะ 1 เหล่านี้ไม่ต้องอาบัติ
วินีตวัตถุ อุทานคาถา
รวม 67 เรื่อง
เรื่องภิกษุวัชชีบุตร ภิกษุวัชชีบุตร เมืองเวสาลีหลายรูปด้วยกัน ไม่บอกคืนสิกขา ไม่ทำความ
เป็นผู้ทุรพลให้แจ้ง แล้วเสพเมถุนธรรม ฯลฯ พวกเธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ฯ
เรื่องลิงตัวเมีย ภิกษุรูปหนึ่งเสพเมถุนธรรมในลิงตัวเมีย ฯลฯ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ฯ
เรื่องปลอมเป็นคฤหัสถ์ ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่า เราจักไม่อาบัติด้วยวิธีอย่างนี้แล้วปลอมเป็น
คฤหัสถ์เสพเมถุนธรรม ฯลฯ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
เรื่องเปลือยกาย ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่าเราจักไม่ต้องอาบัติด้วยวิธีอย่างนี้ แล้วเปลือยกายเสพเมถุนธรรม ฯลฯ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ฯ
เรื่องปลอมเป็นเดียรถีย์ 7 เรื่อง
1. ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่า ฯลฯ แล้วนุ่งคากรอง เสพเมถุนธรรม ฯลฯ
ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
2. ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่า ฯลฯ แล้วนุ่งเปลือกไม้ครอง ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
3. ฯลฯ แล้วนุ่งเปลือกไม้ครอง ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
4. ฯลฯ แล้วนุ่งผ้ากัมพลทำด้วยเส้นผม ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
5. ฯลฯ แล้วนุ่งผ้ากัมพลทำด้วยขนหางสัตว์ ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
6. ฯลฯ แล้วนุ่งผ้าทำด้วยขนปีกนกเค้า ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
7. ฯลฯ แล้วนุ่งหนังเสือ ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องเด็กหญิง ภิกษุรูปหนึ่ง เห็นเด็กหญิงนอนอยู่บนตั่งเกิดความกำหนัด จึงสอดนิ้วแม่มือเข้าไป
ในองค์กำเนิดเด็กหญิง ๆ นั้นตาย ฯลฯ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติสังฆทิเสส ฯ
เรื่องภิกษุณีชื่ออุปปลวัณณา มาณพคนหนึ่ง มีจิตปฏิพัทธ์ในภิกษุณี ชื่ออุปปลวัณณา เมื่อภิกษุณี
อุปปลวัณณา เข้าสู่บ้านเพื่อบิณฑบาตจึงเข้าไปซ่อนอยู่ในกุฏิ เวลาปัจฉิมภัตรภิกษุณีอุปปลวัณณา
กลับจากบิณฑบาตล้างเท้าแล้วเข้ากุฏินั่งบนเตียง มาณพนั้นจึงเข้าปลุกปล้ำประทุษร้ายภิกษุณีอุปลลวัณณา
นางจึงแจ้งเหตุนั้นแก่ภิกษุณีทั้งหลาย แก่ภิกษุณีทั้งหลาย, จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ภิกษุณีผู้ไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ,
เรื่องเพศกลับ 2 เรื่อง
1. เพศหญิงปรากฏแก่ภิกษุผู้หนึ่ง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค, ตรัสว่า เราอนุญาตอุปัชณาย์เดิม อุปสมบทเดิม พรรษาก็เหล่านั้น และให้อยู่ร่วมกับภิกษุณีทั้งหลาย อาบัติเหล่าใดของภิกษุทั้งหลายนี้ทั่วไป กับภิกษุณีทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปลงอาบัติเหล่านั้น
ในสำนักภิกษุณีทั้งหลาย อาบัติเหล่าใดของภิกษุทั้งหลายที่ไม่ทั่วไปกับภิกษุณีทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติเพราะอาบัติเหล่านั้น
2. เพศชายปรากฎแก่ภิกษุณีรูปหนึ่ง ฯลฯ อาบัติเหล่าในของภิกษุณีทั้งหลายที่ทั่วไปกับภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปลงอาบัติเหล่านั้นในสำนักภิกษุทั้งหลาย อาบัติเหล่าใดของภิกษุณีทั้งหลาย
ที่ไม่ทั่วไปกับภิกษุทั้งหลาย ไม่ต้องอาบัติเพราะอาบัติเหล่านั้น
เรื่องมารดา ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่า ฯลฯ แล้วเสพเมถุนธรรมในมารดา ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องธิดา ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่า ฯลฯ แล้วเสพเมถุนธรรมในธิดา ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องพี่น้องหญิง ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่า ฯลฯ แล้วเสพเมถุนธรรมในพี่น้องหญิง ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องภรรยา ภิกษุรูปหนึ่งเสพเมถุนธรรมในภรรยาเก่า ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องภิกษุมีหลังอ่อน ภิกษุรูปหนึ่งมีหลังอ่อน เธอถูกความกระสันบีบคั้นแล้ว ได้อมองค์กำเนิดของ
ตนเองด้วยปาก ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องภิกษุมีองค์กำเนิดยาว ภิกษุรูปหนึ่งมีองค์กำเนิดยาว ฯลฯ ได้สอดองค์กำเนิดของตน
เข้าสู่วัจจมรรคของตน ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องแผล 2 เรื่อง
1. ภิกษุรูปหนึ่งได้พบศพ และที่ศพนั้นมีแผลอยู่ใกล้องค์กำเนิดจึง สอดองค์กำเนิดของตนเข้าในองค์
กำเนิดของศพ แล้วถอยออกทางแผล ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
2. ภิกษุรูปหนึ่งพบศพ ฯลฯ จึงสอดองค์กำเนิดของตนเข้าในแผล แล้วถอนออกทางองค์กำเนิด
ของศพ ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องรูปปั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีความกำหนัด ได้ถูกต้องนิมิต แห่งรูปปั้นด้วยองค์กำเนิด ฯลฯ
เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฎ
เรื่องตุ๊กตาไม้ ภิกษุรูปหนึ่งมีความกำหนัด ได้ถูกต้องนิมิตแห่งตุ๊กตาไม้ด้วยองค์กำเนิด ฯลฯ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฎ
เรื่องภิกษุชื่อสุนทระ ภิกษุชื่อสุนทระ เดินไปตามถนนสตรีผู้หนึ่งเห็นท่านแล้วกล่าวว่านิมนต์หยุด
ประเดี๋ยวก่อน ดิฉันจักไหว้ นางไหว้พลางเลิกผ้าอันตรสาวกขึ้นแล้วอมองค์กำเนิดด้วยปาก เธอได้มีความ
รังเกียจว่า ฯลฯ พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่าเธอยินดีหรือ
ภิ.ไม่ยินดี พระพุทธเจ้าข้า
พ. ภิกษุผู้ไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ
เรื่องสตรี 4 เรื่อง
1. สตรีผู้หนึ่งพบภิกษุแล้วได้กล่าวคำนี้ว่า นิมนต์มาเสพเมถุนธรรมกันเถิด ภิกษุนั้นห้ามว่า การเรื่องนี้ไม่ควร สตรีนั้น แนะนำว่า ดิฉันจักพยายามเอง ท่านไม่ต้องพยายาม โดยวิธีนี้
อาบัติไม่มีแก่ท่าน ภิกษุนั้นได้ทำอย่างนั้นแล้ว ฯลฯ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
2. สตรีผู้หนึ่งพบภิกษุแล้วกล่าวคำนี้ว่า นิมนต์มาเสพเมถุนธรรมเถิด ภิกษุนั้นห้ามว่า ฯลฯ
สตรีนั้นแนะนำว่า ท่านจงพยายามเอง ดิฉันจักไม่พยายาม ฯลฯ ภิกษุนั้นได้ทำอย่างนั้นแล้ว ฯลฯ
เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
3. สตรีผู้หนึ่ง ฯลฯ สตรีนั้นแนะนำว่า ท่านจงพยายามภายใน แล้วปล่อยสุกกะภายนอก
ภิกษุนั้นได้ทำอย่างนั้นแล้ว ฯลฯ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
4. สมัยนั้น สตรีผู้หนึ่ง ฯลฯ สตรีนั้นแนะนำว่าท่านจงพยายามภายนอก
แล้วปล่อยน้ำสุกกะภายใน ภิกษุนั้นได้ทำอย่างนั้นแล้ว ฯลฯ เธอต้องปาราชิกแล้ว
เรื่องป่าช้า 5 เรื่อง
1. ภิกษุรูปหนึ่งในป่าช้า เห็นศพยังไม่ถูกสัตว์กัด ได้เสพเมถุนธรรมในศพนั้น ฯลฯ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
2. ภิกษุรูปหนึ่งเห็นศพที่ยังไม่ถูกสัตว์กัดโดยมาก ฯลฯ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
3. ภิกษุรูปหนึ่งเห็นศพที่ถูกสัตว์กัดโดยมาก ฯลฯ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิกแต่ต้องอาบัติถุลลัจจัย
4. ภิกษุรูปหนึ่งเห็นศพซึ่งมีศีรษะขาด ได้สอดองค์กำเนิดเข้าไปกระทบในปากที่อ้า ฯลฯ
เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
5. ภิกษุรูปหนึ่งเห็นศพซึ่งมีศีรษะขาด ได้สอดองค์กำเนิดเข้าไปในปากที่อ้า ไม่ให้กระทบ ฯลฯ
เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้องอาบัติทุกกฏ
เรื่องกระดูก ภิกษุรูปหนึ่ง มีจิตปฏิพัทธ์ในสตรีผู้หนึ่ง สตรีนั้นถึงแก่กรรมแล้ว เขาทิ้งไว้ในป่าช้า
กระดูกเกลื่อนกลาด ภายหลังภิกษุนั้น เก็บกระดูกคุมกันเข้าแล้ว จดองค์กำเนิดลงที่นิมิต ฯลฯ แต่ต้องอาบัติทุกกฏ
เรื่องนาคตัวเมีย มีภิกษุรูปหนึ่ง เสพเมถุนธรรมในนาคตัวเมีย ฯลฯ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
เรื่องนางยักษิณี ภิกษุรูปหนึ่ง เสพเมถุนธรรมในยักษิณี ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องหญิงเปรต ภิกษุรูปหนึ่ง เสพเมถุนธรรมในหญิงเปรต ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องบัณเฑาะก์ ภิกษุรูปหนึ่ง เสพเมถุนธรรมในบัณเฑาะก์ ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องภิกษุผู้มีอินทรีย์พิการ ภิกษุรูปหนึ่งมีอินทรีย์พิการ เธอคิดว่า เราไม่รู้สึกสุขหรือทุกข์
อาบัติจักไม่มีแก่เรา จึงเสพเมถุนธรรม ฯลฯ โมฆะบุรุษนั้นรู้สึกก็ตาม ไม่รู้สึกก็ตาม ต้องอาบัติปาราชิกแล้ว
เรื่องจับต้อง ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่า เราจักเสพเมถุนธรรมในสตรี ครั้นจับต้องตัวเข้าเท่านั้น
ก็เกิดความกินแหนง เธอมีความรังเกียจว่า ฯลฯ แต่ต้องอาบัติทุกกฏ
เรื่องพระอรหันต์เมืองภัททิยะจำวัดหลับ ภิกษุรูปหนึ่ง อยู่ในที่พักจำวัดหลับอยู่ อวัยวะใหญ่น้อย
ของภิกษุนั้นถูกลมรำเพยให้ตึงตัว สตรีผู้หนึ่งพบเข้าแล้วได้เข้านั่งอมองค์กำเนิด กระทำพอแก่ความประสงค์
แล้วหลีกไป ภิกษุจึงกราบทูลเรื่องนั้นแก่พระผู้มีพระภาค ๆ ตรัสว่า องค์กำเนิดเป็นอวัยวะใช้การได้ด้วยอาการ 5 อย่างคือ กำหนัด 1 ปวดอุจจาระ 1 ปวดปัสสาวะ 1 ถูกลมรำเพย 1 ถูกบุ้งขน 1 องค์กำเนิดของภิกษุนั้น พึงเป็นอวัยวะใช้การได้ ด้วยความกำหนัดใด ข้อนั้นไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส เพราะภิกษุนั้นเป็นอรหันต์ ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติ
เรื่องภิกษุเมืองสาวัตถี 4 เรื่อง
1. ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในที่พักจำวัดหลับอยู่ สตรีเลี้ยงโคคนหนึ่งพบเข้า จึงนั่งคร่อมองค์กำเนิด ภิกษุนั้นยินดีกริยาที่เข้าไป ที่เข้าไปถึงแล้ว ที่หยุดอยู่ ที่ถอนออก ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
2. ภิกษุรูปหนึ่ง ฯลฯ สตรีเลี้ยงแพะคนหนึ่งพบเข้าจึงนั่งคร่อมองค์กำเนิด ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
3. ภิกษุรูปหนึ่ง ฯลฯ สตรีหาฟืนคนหนึ่งพบเข้าจึงนั่งคร่อมองค์กำเนิด ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
4. ภิกษุรูปหนึ่ง ฯลฯ สตรีขนโคมัยคนหนึ่งพบเข้าจึงนั่งคร่อมองค์กำเนิด ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
เรื่องภิกษุชาวมัลละเมืองเวสาลี 3 เรื่อง
1. ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในที่พักสตรีคนหนึ่งพบเข้า จึงนั่งคร่อมองค์กำเนิด กระทำพอแก่ความประสงค์ แล้วยืนหัวเราะอยู่ใกล้ ๆ ภิกษุนั้นตื่นขึ้นแล้วถามสตรีนั้นว่า นี่เป็นการกระทำของเธอหรือสตรีนั้นตอบว่าใช่ ฯลฯ พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอรู้สึกตัวหรือ ภิ. ไม่รู้สึกตัว พระพุทธเจ้าข้า
พ. ภิกษุผู้ไม่รู้สึกตัว ไม่ต้องอาบัติ
2. ภิกษุรูปหนึ่ง ฯลฯ จำวัดพิงต้นไม้อยู่ สตรีคนหนึ่งพบเข้า จึงนั่งคร่อมองค์กำเนิด ภิกษุนั้นรีบลุกขึ้นทันที ฯลฯ พ. เธอยินดีหรือ ภิ. ไม่ยินดี พระพุทธเจ้าข้า พ. ภิกษุผู้ไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ
3. ภิกษุรูปหนึ่ง ฯลฯ สตรีคนหนึ่งพบเข้า จึงนั่งคร่อมองค์กำเนิด ภิกษุนั้นยันให้กลิ้งไป ฯลฯ
พ. ภิกษุไม่ยินดีไม่ต้องอาบัติ
เรื่องภิกษุเปิดประตูนอน ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในที่พักกลางวันเปิดประตูจำวัดหลับอยู่
อวัยวะใหญ่น้อยของเธอ ถูกลมรำเพยให้ตึงตัว ครั้งนั้นสตรีหลายคนพบภิกษุนั้น แล้วได้นั่งคร่อมองค์กำเนิด
กระทำพอแก่ความประสงค์ แล้วกล่าวว่าภิกษุนี้องอาจนัก แล้วกลับไปภิกษุเห็นองค์กำเนิดเปรอะเปื้อน
จึงกราบทูล ฯลฯ เพราะภิกษุนั้นเป็นอรหันต์ ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุ
ผู้จะพักผ่อนในกลางวัน ปิดประตูก่อนจึงพักผ่อนได้
เรื่องภิกษุชาวเมืองภารุกัจฉะฝัน ภิกษุรูปหนึ่ง ฝันว่าได้เสพเมถุนธรรมในภรรยาเก่า แล้วคิดดูว่า
เราไม่เป็นสมณะ จักสึกละพบท่านพระอุบาลีระหว่างทาง จึงแจ้งเรื่องนั้นให้ทราบ พระอุบาลีกล่าวว่า
อาวุโส อาบัติไม่มีเพราะความฝัน
เรื่องอุบาสิกาชื่อสุปัพพา 9 เรื่อง
1. อุบาสิกาชื่อสุปัพพา นางมีความเห็นว่า สตรีใดให้เมถุนธรรม สตรีนั้นชื่อว่าให้ทานอันเลิศ นางพบภิกษุแล้วได้กล่าวคำนี้ว่า นิมนต์มาเสพเมถุนธรรมเถิด ภิกษุห้ามว่า ฯลฯ นางแนะนำว่า ท่านจงพยายามที่ระหว่างขาอ่อน ฯลฯ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
2. - 9. อุบาสิกาชื่อสุปัพพา ฯลฯ ท่านจงพยายามที่สะดือ ที่เกลียวท้อง ที่ซอกรักแร้ ที่คอ ที่ช่องหู ที่มวยผม ที่ง่ามมือ ดิฉันจักพยายามด้วยมือให้สุกกะเคลื่อน ฯลฯ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
เรื่องอุบาสิกาชื่อสัทธา 9 เรื่อง
1. สมัยนั้น อุบาสิกาชื่อสัทธา ฯลฯ จงพยายามที่ระหว่างขาอ่อน ฯลฯ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
2.-9. อุบาสิกาชื่อสัทธา ฯลฯ ท่านจงพยายามที่สะดือ ที่เกลียวท้อง ที่ซอกรักแร้ ที่คอ ที่ช่องหู ที่มวยผม ที่ง่ามมือ ดิฉันจักพยายามด้วยมือให้สุกกะเคลื่อน ฯลฯ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
เรื่องภิกษุณี พวกลิจฉวีกุมาร จับภิกษุขืนให้ปฏิบัติผิดในนางภิกษุณี เธอทั้งสองยินดี
พระวินัยธรพึงให้นาสนะเสียทั้งสอง เธอทั้งสองไม่ยินดีทั้งสองไม่ต้องอาบัติ
เรื่องสิกขมานา พวกลิจฉวี ฯลฯ จับภิกษุขืนให้ปฏิบัติในบางสิกขมานา ฯลฯ
เรื่องสามเณรี พวกลิจฉวี ฯลฯ ปฏิบัติผิดในสามเณรี ฯลฯ
เรื่องหญิงแพศยา พวกลิจฉวี ฯลฯ ปฏิบัติผิดในหญิงแพศยา ฯลฯ
เรื่องบัณเฑาะก์ พวกลิจฉวี ฯลฯ ปฏิบัติผิดในบัณเฑาะก์ ฯลฯ
เรื่องสตรีคฤหัสถ์ พวกลิจฉวี ฯลฯ ปฏิบัติผิดในสตรีคฤหัสถ์ ฯลฯ
เรื่องให้ผลัดกัน พวกลิจฉวี ฯลฯ จับภิกษุให้ปฏิบัติผิดในกันและกัน ฯลฯ
เรื่องภิกษุผู้เฒ่า ภิกษุผู้เฒ่ารูปหนึ่ง ได้ไปเยี่ยมภรรยาเก่า นางได้จับบังคับว่า ท่านจงสึกมาเสียเถิด
ภิกษุนั้นถอยหลังล้มหงาย นางจึงขึ้นคร่อมองค์กำเนิด เธอได้มีความรังเกียจ ฯลฯ พ. เธอยินดีหรือเปล่า
ภ. ไม่ยินดี พระพุทธเจ้าข้า พ. ภิกษุผู้ไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ
เรื่องลูกเนื้อ ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในป่า ลูกเนื้อมาสู่ที่ถ่ายปัสสาวะของเธอแล้ว
ได้อมองค์กำเนิดพลางดื่มปัสสาวะ ภิกษุนั้นยินดี ฯลฯ ต้องอาบัติปาราชิก
จบ ปฐมปาราชิกกัณฑ์
|