งานกู้ชาติในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้ชาติไทยจากพม่า เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ในขณะที่เมืองไทยอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด เพราะพม่าทำสงครามกับไทยครั้งนี้ ไม่ได้คิดจะรักษาเมืองเมืองไทยไว้เป็นเมืองขึ้น หมายแต่จะเอาทรัพย์สมบัติ กับกวาดต้อนผู้คนไปเป็นเชลย
ราชการสงครามในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งของชาติไทย พระองค์ได้กู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด นั่นคือ จากฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตก
ประเทศไทย ในรัสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง พระองค์ได้ทรงนำประเทศไทย ให้ผ่านพ้นวิกฤตกาล จากการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ด้วยพระปรีชาสามารถอันสูงยิ่ง หาผู้เสมอเหมือนมิได้ และยังทรงนำประเทศไทยไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทันสมัย ทัดเทียมนานาอารยประเทศนานัปการ
พระบรมมหาราชวัง
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ เมื่อเสร็จขึ้นครองราชสมบัติ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๕ ได้ทรงมีพระราชดำริว่า ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกับพระราชวังเดิมของกรุงธนบุรี เป็นชัยภูมิเหมาะสมที่จะตั้งเป็นพระมหานคร
การศึกษาหาความรู้พงศาวดาร และตำนานเก่าย่อมถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่าง ๑ ใน การศึกษาทั่วทุกประเทศ ในสยามประเทศแต่โบราณมา ท่านผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินตั้งต้นแต่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลก่อน ๆ มา ก็ย่อมเป็นพระราชธุระทำนุบำรุงความรู้พงศาวดารตลอดมาแทบทุกรัชกาล
พระบรมราโชวาท
"หลักการสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ปฏิบัติงานสำเร็จ และเจริญก้าวหน้าได้แท้จริง คือการไม่ทำตัวทำความคิดให้คับแคบ หากให้มีเมตตา และไมตรียินดีประสานสัมพันธ์กับผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ร่วมงานอย่างจริงใจ"
จากหลักฐานในศิลาจารึก พระเจ้าแผ่นดินไทย ในสมัย ราชอาณาจักรสุโขทัย มีอยู่ ๘ พระองค์ อยู่ในราชวงศ์
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ ของกรุงศรีอยุธยา เสด็จพระราชสมภพ
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระนามเดิมว่า สิน ทรง พระราชสมภพ เมื่อปี พ.ศ. ๒๒๗๗ ที่บ้านใกล้กำแพง พระนครศรีอยุธยา
พระบาทสมเด็จพระพุทธ ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2325-2352 ครองราชย์ 27 พรรษา พระชนมายุ 74 พรรษา
พระชัยวัฒน์เดิมมีพระนามว่าพระชัย หรือพระไชยต่อมาในรัชสมัยพระ บาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ออกพระนามเพิ่มว่าพระไชยวัฒน์
เป็นเครื่องหมายแห่งความ เป็นพระราชาธิบดีหรืออีกนัยหนึ่ง เป็นเครื่องประกอบพระบรม ราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์สมัยโบราณ จะมีธงประจำพระองค์อยู่คู่หนึ่งคือ ธงกระบี่ธุช กับธงพระครุฑพ่าห์ ลักษณะธงเป็นแผงมี 3 ชาย หุ้มด้วยสักหลาดสีแดง
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพิธีที่ผสมด้วยลัทธิพราหมณ์ และพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท และยังมีลัทธิเทวราชของ เขมรมาผสมอยู่อีกส่วนหนึ่ง
ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของพระมหากษัตริย์ไทย มีขั้นตอน ที่สำคัญอยู่ประการหนึ่ง คือ การทรงรับน้ำอภิเษก เพื่อแสดงความเป็นเจ้าเป็นใหญ่
พระราชพิธีสำหรับ พระนครที่เคยมีมาแต่ก่อน อาศัยที่มาเป็นสองทางคือ ศาสนาพราหมณ์ พระพุทธศาสนาทางหนึ่ง